เหมืองทอง "อัครา" เตรียมพร้อมกลับมาเปิดอีกครั้ง
อัครา รีซอร์สเซส รายงานว่าเตรียมพร้อมกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง หลังบริษัทได้รับอนุญาตการต่ออายุประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ทองคำและเงิน จำนวน 4 แปลง ออกไปอีก 10 ปี และได้รับอนุญาตต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ออกไปอีก 5 ปี
รายงานข่าวจากบริษัทอัครา รีซอร์สเซส เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการออกประกาศ โดยนายสิโรจ ประเสริฐผล กรรมการบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตามที่บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นใหญ่ อัครา รีซอร์สเซส ผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำชาตรี รายงานว่าบริษัทได้รับอนุญาตการต่ออายุประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ทองคำและเงิน จำนวน 4 แปลง ออกไปอีก 10 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2574 และการได้รับอนุญาตการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ออกไปอีก 5 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2570 นั้น บริษัทข้อชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้
คำขอต่ออายุประทานบัตรทั้งหมดเป็นคำขอที่บริษัทได้ยื่นไว้ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 และพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ในพื้นที่ประทานบัตรเดิม โดยบริษัทได้ยื่นเอกสารประกอบคำขอเพิ่มเติมตามที่กำหนด รวมทั้งได้ดำเนินการตามกรอบนโยบายบริหารจัดการแร่ทองคำและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทได้กล่าวขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรม และยืนยันว่ามีการใช้เทคโนโลยีซึ่งมีมาตรฐานระดับสากล และดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และให้ความสำคัญกับการเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินงานของบริษัทไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
อีกทั้ง กล่าวถึงวิสัยทัศน์บริษัทที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการผลิตทองคำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน มุ่งเน้นส่งเสริมการปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานสากลด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า บริษัทปฏิบัติทุกอย่างตามกฎหมายและหลักธรรมภิบาลอย่างเคร่งครัด การดำเนินงานของบริษัทไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด โดยอ้างถึงเอกสารวิชาการที่จัดทำโดยคณะบุคคลและหน่วยงานที่เป็นกลางสนับสนุนข้อเท็จจริง อาทิ
1. โครงการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณพื้นที่แหล่งแร่ทองคํา จังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ของสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งพบว่าค่าการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่บริเวณโครงการไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากพื้นที่อื่นที่อยู่ไกลออกไป และไม่แสดงความสัมพันธ์กับกิจกรรมการทำเหมืองแต่อย่างใด
2. รายงานการตรวจสอบและประเมินมาตรฐานของเหมืองแร่ทองคำชาตรีโดยบริษัท แบร์ โดแบร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด (Behre Dolbear International Limited) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบและประเมินการปฏิบัติงานของเหมืองทองทั่วโลกกว่า 100 ปี ที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เลือกให้มาตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทอย่างละเอียดทุกขั้นตอน โดยผลการประเมินพบว่าการดำเนินงานทุกอย่างของบริษัทปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ บริษัทจะจัดให้มีการติดตั้งจุดตรวจวัดคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมการตรวจวัดคุณภาพดิน น้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน อากาศ ทั้งในพื้นที่โครงการและบริเวณโดยรอบ ด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญและบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินการของบริษัทปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสูงสุด
และทิ้งท้ายว่า บริษัทขอบคุณรัฐบาลไทยที่พิจารณาข้อเท็จจริงทุกอย่างด้วยความเป็นธรรม รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรมที่อนุญาตการต่ออายุประทานบัตรและใบอนุญาตประกอบโลหกรรมให้แก่บริษัทเพื่อให้สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง ด้วยเชื่อว่าบริษัทจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ