เอกชนขานรับโควิด-19เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ชี้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย
“หอการค้า”ขานรับโรคเฝ้าระวัง
มั่นใจพ้นโควิดหนุนเศรษฐกิจฟื้นแนะ รัฐเตรียมความพร้อมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพิ่ม อานิสงค์ โควิด-19 เป็นโรคเฝ้าระวังด้านผู้ส่งออก เผย ภาคคธุรกิจกล้าลงทุน ปรับโฉมธุรกิจ รับกิจกรรมเศรษฐกิจ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า ในวันที่1ต.ค.ไทยจะประกาศให้โควิด-19เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อเศรษฐกิจ ที่ประกาศให้โควิด-19เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะสะท้อนให้เห็นว่าเราสามารถบริหารจัดการกับโควิดได้จนกลายเป็นโรคที่ไม่ส่งผลรุนแรง เช่นเดียวกับแนวทางของหลาย ๆ ประเทศ ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งกว่าที่จะถึงวันนี้ เราใช้ความพยายามอย่างมาก และมีพัฒนาการที่ดีมาเรื่อยๆ
นอกจากการใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าประเทศ อันหมายถึงเม็ดเงินที่จะเข้ามาสู่ประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไตรมาสสุดท้ายอีกประมาณ 5 ล้านคน ทำให้มีเงินสะพัดประมาณ 2.0-2.5 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยก็ต้องเตรียมความพร้อมรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นนี้ด้วย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา จำนวนแรงงานในภาคท่องเที่ยวและโรงแรม รวมถึงสายการบินลดลงไปเป็นจำนวนมาก อาจเป็นอุปสรรคในการรองรับการท่องเที่ยว ดังนั้นควรเร่งเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับด้วยรวมถึง ควรต้องเตรียมวงเงินเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมด้วย เพราะต้นทุนหลาย ๆ อย่างจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งต้นทุนวัตถุดิบต่าง ๆ ราคาพลังงาน ค่าจ้างแรงงาน รวมไปถึงค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วย
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลในวันที่ 1ต.ค.2565 ไทยจะประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้นดึงเงินตราเข้าประเทศอย่างไรก็ตามเราก็อย่าประมาทการ์ดตก ยังคงจำเป็นต้องดูแลตนเองไม่ให้ติดโควิด-19ทั้งเรื่องของการใส่แมสก์ เว้นระยะห่าง ใช้ช้อนกลาง และปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนภาคธุรกิจขณะนี้ก็กำลังเตรียมความพร้อมรับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ การลงทุนใหม่ภายในของธุรกิจตนเอง ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน ร้านอาหาร ที่พัก เป็นต้นภาคธุรกิจกล้าที่จะใช้เงิน กล้าที่ลงทุนใหม่ๆ กล้าจ้างแรงงานเพิ่มเพื่อให้ธุรกิจของตนเองขับเคลื่อนเดินหน้าได้เต็มที่ซึ่งจะทำให้ประเทศกลับมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คึกคักเหมือนเดิม เพราะที่ผ่านมาก็ซบเซาจากผลกระทบของโควิด-19