หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกดอกเบี้ยขาขึ้น-เศรษฐกิจถดถอย
หุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (5 ต.ค.) หลังทะยานขึ้น 3 วันติดต่อกัน โดยนักลงทุนกลับมาวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นอีกครั้ง หลังธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% และกิจกรรมทางธุรกิจที่ลดลงในยุโรปได้ตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 398.91 จุด ลดลง 4.12 จุด หรือ -1.02% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,985.46 จุด ลดลง 54.23 จุด หรือ -0.90%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,517.18 จุด ลดลง 153.30 จุด หรือ -1.21% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,052.62 จุด ลดลง 33.84 จุด หรือ -0.48%
บรรดานักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง หลังธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.50% และนักลงทุนจะรอการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะตลาดแรงงาน และแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนก.ย. ได้ทำลายความหวังที่ว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หุ้นเกือบทุกกลุ่มในดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลง นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มค้าปลีก ขณะที่กลุ่มเทเลคอมและกลุ่มธนาคาร ร่วงลง 2.2% และ 2.1% ตามลำดับ
ดัชนี STOXX 600 ร่วงลง 18.2% แล้วในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงานที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย และความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจซึ่งเป็นผลจากการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของเฟด และธนาคารกลางอื่นๆ
ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวลงในวันนี้ อาทิ หุ้นเทสโก้ ร่วงลง 4.1% หลังคาดการณ์ผลกำไรทั้งปีลดลงจากระดับที่คาดไว้ก่อนหน้านี้