ดาวโจนส์ทรุด 403 จุด ถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดวันศุกร์(14ต.ค.)ปรับตัวลง 403 จุด เพราะถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อ หรือดัชนี CPI เดือนก.ย. ที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 403.89 จุด หรือ 1.34% ปิดที่ 29,634.83 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 2.37% ปิดที่ 3,583.07 จุด
ดัชนีแนสแด็ก ร่วง 3.08% ปิดที่ 10,321.39 จุด
เมื่อวันพฤหัสบดี(13ต.ค.)กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.5%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สหรัฐยังคงเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้ออยู่และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงในระดับที่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลิกปรับขึ้นดอกเบี้ย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐก็เพิ่งรายงานข้อมูลดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.4% จากระดับ 8.7% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนก.ย.ของเฟดบ่งชี้ว่า กรรมการเฟดแสดงความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ระดับสูง และหลายรายวิตกว่าเฟดดำเนินการน้อยเกินไปในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยในการประชุมเดือนก.ย. เฟดลงมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันเพื่อพยายามที่จะลดเงินเฟ้อลงจากระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนก.ย. หรือเพิ่มขึ้น 0.0% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.