เกษตร ดันไทยขึ้นแท่น “ผู้นำการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นของโลก”

เกษตร  ดันไทยขึ้นแท่น “ผู้นำการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นของโลก”

กรมวิชาการเกษตร ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเมล็ดพันธุ์พืชแห่งเอเชียและแปซิฟิค ครั้งที่ 27 ยกระดับเป้าหมายความมั่นคงอาหาร มุ่งสู่ “ผู้นำการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นของโลก”

                สืบเนื่องจาก การจัดประชุม APEC ระดับสูงด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร (APEC High-Level Policy Dialogue on Agriculture Biotechnology: APEC HLPDAB) พร้อมเชื่อมต่อนโยบายรัฐบาลด้านความมั่นคงอาหาร โดยมอบหมายให้ “กรมวิชาการเกษตร” เร่งพัฒนาการวิจัยเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์พืช ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพระดับสูง เพื่อยกระดับคุณภาพและผลผลิต ท่อนพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ให้เป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ (Seed-Hub) ของภูมิภาคเศรษฐกิจ APEC 

กรมวิชาการเกษตร จึงได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเมล็ดพันธุ์พืชแห่งเอเชียและแปซิฟิค ( ASIAN Seed Congress ) ครั้งที่ 27 ประจำปี 2565 เพื่อผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าเมล็ดพันธุ์ระดับโลก   โชว์ผลงานส่งเสริมการผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง พร้อมเปิดเวทีเจรจาการค้าเมล็ดพันธุ์ระหว่างประเทศ  โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ทั่วโลกครอบคลุมมากกว่า 50 ประเทศกว่า 1,100 ราย

เกษตร  ดันไทยขึ้นแท่น “ผู้นำการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นของโลก” เกษตร  ดันไทยขึ้นแท่น “ผู้นำการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นของโลก” เกษตร  ดันไทยขึ้นแท่น “ผู้นำการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นของโลก” เกษตร  ดันไทยขึ้นแท่น “ผู้นำการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นของโลก”

 

       นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า การประชุมเมล็ดพันธุ์พืชแห่งเอเชียและแปซิฟิค ประจำปี 2565 หรือ Asian Seed Congress 2022 เป็นการประชุมครั้งที่ 27 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-18 พฤศจิกายน 2565 ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยสมาคมเมล็ดพันธุ์พืชภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค (APSA) และสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย (THASTA) เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานประชุมเมล็ดพันธุ์ระดับชาติอย่างเป็นทางการ ร่วมกับ กรมวิชาการเกษตร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

ซึ่งถือเป็นงานสำคัญของสมาคมเมล็ดพันธุ์พืชภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิคที่จัดขึ้นทุกปีในประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค  เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศที่เป็นสมาชิกของ APSA ได้เจรจาการค้าด้านธุรกิจเมล็ดพันธุ์ และเสริมสร้างศักยภาพผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช การผลิต และการค้าเมล็ดพันธุ์ในระดับภูมิภาค พร้อมอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์และการค้าขายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมการฝึกอบรม และแบ่งปันความรู้ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับโลก

 

       กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำโครงการสำคัญ หลายโครงการ ได้แก่

(1) ระบบบริการออนไลน์กรมวิชาการเกษตรระบบใหม่ (NEW DOA-NSW) ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก และการนำผ่านของด่านตรวจพืช ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ

(2) การให้บริการใบรับรองปลอดศัตรูพืชอิเล็กทรอนิกส์ (E–Phyto) แก่ผู้ประกอบการ

(3) การรับรองห้องปฏิบัติการตรวจสอบสุขอนามัยเมล็ดพันธุ์พืชให้แก่ภาคเอกชน (Seed Health Test Lab Accreditation)

และ(4) การพัฒนาห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์ของกรมวิชาการเกษตรให้เทียบเท่าระดับสากล

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสำคัญของกรมวิชาการเกษตรในการทำงานด้วยความชัดเจน รวดเร็ว ทันสถานการณ์ ลดขั้นตอนและภาระงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการผ่านพิธีการศุลกากรของสินค้าไทย ทั้งต้นทางและปลายทาง เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบศัตรูพืชของไทย ต่อยอดให้อุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์การค้าเมล็ดพันธุ์ของไทยเติบโตในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงโดยเกษตรกรไทยสู่ทุกภูมิภาคของโลก พร้อมกับยกระดับเป้าหมายให้ประเทศไทย เป็น “ผู้นำด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้น (World Leader of Tropical Seeds)”

 

       อนึ่ง ศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ของกรมวิชาการเกษตร ประกอบด้วย

1.กลุ่มเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่ 60 ถั่วเหลืองฝักสดพันธุ์เชียงใหม่ 84-2 ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท72, ชัยนาท 3  ถั่วลิสงพันธุ์ไทนาน 9 ,ขอนแก่น 6, ขอนแก่น 9  เฉลี่ย 2000 ตัน/ปี

2. กลุ่มเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด (รวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวโพดอื่นๆ) เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นครสวรรค์ 3 และนครสวรรค์ 5, ข้าวโพดหวานสงขลา 84-1 เฉลี่ย 150 ตัน/ปี 

3. กลุ่มเมล็ดพันธุ์ผัก เช่น พริกขี้หนูผลใหญ่ ศก 1 พริกขี้หนูหัวเรือ ศก.13  ถั่วฝักยาวพิจิตร 2 ถั่วฝักยาวพิจิตร 3 ผักบุ้ง พิจิตร 1  กระเจี๊ยบเขียวพิจิตร 1 เฉลี่ย 5 ตัน/ปี  โดยประเทศไทยมีปริมาณการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ควบคุม ปี 2564 ประมาณ 8,300 ตัน  คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท และส่งออกเมล็ดพันธุ์ควบคุม ปี 2564 ประมาณ 32,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 7,200 ล้านบาท

 

       “กรมวิชาการเกษตรมุ่งมั่นขยายความร่วมมือกับภาคเอกชน ผู้ประกอบการ เพื่อดูแลเกษตรกรไทยให้เข้าถึงเมล็ดพันธุ์พืชคุณภาพสูงในราคาที่เป็นธรรม ตามเป้าหมายของประเทศไทยด้านความมั่นคงอาหาร ภายใต้ความตกลง APEC Declaration on Food Security ของรัฐมนตรีเกษตรและอาหาร APEC  และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน