‘โรเบิร์ต วอลเทอร์ส’ เปิดข้อมูลตลาดงานปี 66 ทักษะแบบไหน? ที่นายจ้างต้องการ

‘โรเบิร์ต วอลเทอร์ส’ เปิดข้อมูลตลาดงานปี 66  ทักษะแบบไหน? ที่นายจ้างต้องการ

ในปี 2566 เป็นปีที่ตลาดแรงงานจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ บริษัทเอกชนจำนวนมากที่ประกาศรับสมัครงานเพิ่ม ควบคู่ไปกับการเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการเพื่อดึงพนักงานให้ทำงานต่อไปในบริษัท

โดยการปรับเพิ่มผลตอบแทน และสวัสดิการนั้นนายจ้างจะคำนึงถึงทักษะที่สำคัญที่พนักงานควรจะมีเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปได้ตามเป้าหมาย มีผลประกอบการดีตามแผนที่วางไว้

ในผลการสำรวจอัตราเงินเดือน และแนวโน้มเงินเดือนใน ตลาดแรงงานไทย ปี 2566 ของ โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ที่ปรึกษาด้านการจัดหางานระดับโลกได้ระบุถึงทักษะการทำงานที่สำคัญในปี 2566 ที่องค์กรคาดหวังจากพนักงาน

ปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา ผู้จัดการโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประจำประเทศไทย กล่าวว่ารูปแบบการทำงาน และลักษณะงานที่เปลี่ยนไปจากในอดดีตทำให้บริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทยจะให้ความสำคัญกับทักษะทางเทคนิคด้านเทคโนโลยี เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับช่วยการเปลี่ยนผ่านที่ในช่วงที่ประเทศกำลังก้าวไปสู่การเป็นประเทศดิจิทัลอย่างเต็มตัว ทำให้ความต้องการทักษะแบบไฮบริด และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียังเป็นที่ต้องการ 

ในขณะที่พนักงานที่มีคุณสมบัติมุ่งมั่นที่จะยกระดับความสามารถตนเอง เปิดรับการเรียนรู้ และติดตามเทรนด์และเทคโนโลยีอยู่สม่ำเสมอจะเป็นที่ต้องการเช่นกัน 

‘โรเบิร์ต วอลเทอร์ส’ เปิดข้อมูลตลาดงานปี 66  ทักษะแบบไหน? ที่นายจ้างต้องการ

นอกจากนั้นองค์กรยังต้องการพนักงานที่มีทักษะการเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถในการโค้ชผู้จัดการ และทีมให้สามารถเรียนรู้ในเรื่องต่างๆที่องค์กรต้องการถ่ายทอดความรู้ข้อมูล จะเป็นที่ต้องการสูงเช่นเดียวกัน เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ต้องการพนังงานที่ทดแทนตำแหน่งอาวุโสที่ว่างลง 

โดยผลสำรวจพบว่าหลังยุคการแพร่ระบาดโควิด-19 พนักงานที่มีความสามารถในการปรับตัวสูง มีความยืดหยุ่น และความฉลาดทางอารมณ์จะเป็นที่ต้องการสูงด้วยเช่นกัน

ปุณยนุช กล่าวต่อว่าประเด็นการรักษาพนักงานไว้ให้อยู่กับบริษัท เป็นสิ่งที่นายจ้างให้ความสำคัญในตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง โดยบริษัทกว่า 84% กังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนทักษะและความสามารถเฉพาะในกลุ่มธุรกิจของตน และมากกว่า 77% มองว่าการขาดแคลนนี้อยู่ในระดับตำแหน่งงานอาวุโส/หัวหน้าทีมและระดับผู้จัดการ 

การสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า 9 ใน 10 ของบริษัทกำลังเน้นเพิ่มทักษะของพนักงานภายในที่มีอยู่โดยส่วนใหญ่จะเน้นการฝึกอบรมภายในบริษัท มากกว่า 79% ของบริษัทมีกลยุทธ์ในการรักษาพนักงานไว้ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงการเรียนรู้และการพัฒนาที่ดีมากขึ้น และนโยบายการทำงานแบบไฮบริด

ควบคู่กับการปรับสวัสดิการและการดูแลด้านความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนการทบทวนอัตราค่าตอบแทนและการเลื่อนตำแหน่งนอกเหนือจากช่วงเวลาปกติ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเกือบ 40% ของพนักงงานที่มีทักษะที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ โดยกว่า 53% ให้เหตุผลเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน