ตลท.แนะ 3 แนวทางรีดภาษีหุ้น อัตราเหมาะสม-ไม่ซ้ำซ้อน
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ชี้ 3 แนวทางรีดภาษีหุ้น อัตราเหมาะสม-ไม่ซ้ำซ้อน-มีเวลาปรับตัว รอประเมินผลกระทบจริงปีหน้า
กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ดร.ภากร ปีตธวัชชัย ระบุ กรณีการจัดเก็บภาษีหุ้นในปีหน้านั้น ขณะนี้ทุกฝ่ายรับทราบเพียงสิ่งที่รัฐประกาศออกมาเท่านั้น อย่างไรก็ตามคงต้องรอความชัดเจนถึงแนวทางและรูปแบบการจัดเก็บก่อน ทั้งนี้ สิ่งที่ได้เสนอมาโดยตลอดในฐานะตลาดหลักทรัพย์ฯ คืออัตราการเก็บภาษีต้องเป็นอัตราที่เหมาะสมกับสถานการณ์ การจัดเก็บต้องไม่ให้เกิดการเก็บภาษีซ้ำซ้อน และมีเวลาให้ภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม สามารถปรับตัวในส่วนของระบบเพื่อจัดเก็บภาษีและส่งให้ภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีต้นทุนที่ต่ำที่สุด
สำหรับผลกระทบจากภาษีขายหุ้นในปีหน้าจะส่งผลต่อวอลุ่มลดลงหรือไม่นั้น คงต้องประเมินอีกครั้ง เพราะภาษีขายหุ้นเป็นแค่หนึ่งในหลายๆ ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้น แต่หากปีหน้าสภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว ดอกเบี้ยเริ่มลดลงจากการที่เงินเฟ้อปรับตัวลดลงแล้ว และสภาพคล่องไหลกลับมา ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสามารถทำได้มากขึ้น ก็จะเป็นตัวที่ทำให้ผลกระทบจากเรื่องภาษีก็ลดลงได้ แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องรอดูกันไปก่อน ค่อยๆ ประเมินสถานการณ์พร้อมกันเรื่อยๆ และก็คอยดูว่ามีปัจจัยบวกปัจจัยลบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม มองว่าการเก็บภาษีหุ้นเป็นนโยบายของภาครัฐที่จะใช้การเก็บภาษีต่างๆ ไปสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและเป็นการหารายได้เข้ารัฐ ขึ้นอยู่แต่ละประเทศ
ส่วนปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในช่วงนี้ ไม่ได้มาจากประเด็นภาษีหุ้น แต่ยอมรับภาพรวมการซื้อขายในช่วงนี้ไม่ปกติ เพราะว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่ได้มีปัจจัยเข้ามากระทบมากขนาดนี้ ซึ่งมูลค่าการซื้อขายจะสูงกว่านี้ อย่างไรก็ตามคงต้องดูปัจจัยทั้งหมดจะมาดูแค่ช่วงเวลาใดอย่างเดียวคงไม่ได้ คงต้องดูปัจจัยรอบตัวด้วยว่าทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง
โดยปัจจุบันสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศยังไม่ได้กลับมาปกติ ส่งผลให้บรรยากาศลงทุนไม่สดใส และยังเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ได้สนับสนุนปริมาณการซื้อขายที่สูงเหมือนเดือนอื่นๆ รวมทั้งข่าวต่างๆ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือชัดเจนว่าปัญหาต่างๆ ลดลง ไม่ว่าจะเป็นปัญหารัสเซีย-ยูเครน การเปิดประเทศที่ยังไม่ได้เปิดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีหลายประเทศที่ยังควบคุมการเดินทาง การส่งออก ราคาน้ำมัน
ขณะที่กรณีประเด็นการประท้วงหยุดเทรด 1 วันของนักลงทุนรายย่อยวานนี้ (8 ธ.ค.) ไม่พบความผิดปกติในการซื้อขาย โดยหากดูจากครึ่งวันเช้าของวานนี้ กลุ่ม Forex มีการซื้อขายกัน 1.2 หมื่นล้านบาท รายย่อย 9,000 ล้านบาท สถาบันในประเทศ 3,000 ล้านบาท ฉะนั้น สัดส่วนก็ไม่ได้แตกต่างจากวันอื่นๆ มาก แต่ปริมาณการซื้อขายถ้าดูกันก็ต่ำกว่าวันอื่นๆ แต่ดูแล้วไม่ได้มาจากนักลงทุนรายย่อย