คมนาคมลุยปี 2566 อัดงบ 1.2 แสนล้านบาท กระตุ้นจีดีพีประเทศ
“ศักดิ์สยาม” เข็นเม็ดเงินกว่า 1.2 แสนล้านบาท เร่งลงทุนโครงข่ายคมนาคมในปี 2566 หวังดันจีดีพีประเทศฟื้นตัว 2.35% เพิ่มขีดความสามารถพลิกโฉมประเทศ พร้อมกางแผนลุยโปรเจกต์ปีนี้ ครอบคลุมบก-น้ำ-ราง-อากาศ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง มิติใหม่! “คมนาคม” ก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้รอยต่อ ภายในงาน Thailand Seamless: Moving Forward & Go Green “ประเทศไทย” ก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้รอยต่อ มุ่งสู่โลกสีเขียว โดยระบุว่า ในปี 2566 กระทรวงฯ มีแผนผลักดันการลงทุนรวม 124,839 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินงบประมาณ 35,395 ล้านบาท และนอกงบประมาณ 89,443 ล้านบาท ซึ่งในวงเงินส่วนนี้มีการจัดสรรเพื่อพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางรางสูงสุดด้วยมูลค่ารวม 883,147 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66.6% รองลงมา คือ ขนส่งทางถนน มูลค่ารวม 30,960 ล้านบาท คิดเป็น 24.8% ระบบขนส่งทางอากาศมูลค่า 6,331 ล้านบาท คิดเป็น 5.8% และระบบขนส่งทางน้ำ มูลค่า 2,936 ล้านบาท คิดเป็น 2.4% และขนส่งทางบก มูลค่า 597 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.4% ของวงเงินลงทุนทั้งหมด
อย่างไรก็ดี การลงทุนของกระทรวงคมนาคมในปี 2566 จะก่อให้เกิดการพลิกโฉมประเทศ ประชาชนคนไทยและชาวโลกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็น ผลจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่ง วงเงินสะพัดในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องอีกราว 1.24 ล้านล้านบาท และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสูงถึง 2.35% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) หรือราว 4 แสนล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้จะเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานหลัก จาก 80 เป็น 120 ล้านคนต่อปี, เพิ่มขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบัง จาก 11 เป็น 18 ล้านตู้ต่อปี, เพิ่มความเร็วในการเดินทางจากกรุงเทพไปเมืองหลักจาก 80 เป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, เพิ่มความเร็วในการเดินรถไฟขบวนผู้โดยสาร จาก 60 เป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, เพิ่มความเร็วในการเดินรถไฟขบวนสินค้า จาก 40 เป็น 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกทั้งยังเพิ่มโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ครบ 14 สายทาง 554 กิโลเมตร, เพิ่มโครงข่ายรถไฟทางคู่ และแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ เป็น 1,111 กิโลเมตร, เพิ่มการเชื่อมต่อภูมิภาคด้วยโครงการ รถไฟ ไทย-ลาว-จีน และรถไฟ เชื่อม 3 สนามบิน และเพิ่มโอกาสสร้างอนาคตประเทศ ด้วยโครงการ MR-MAP และ Land bridge (แลนด์บริดจ์) หรือโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยที่จะก่อให้เกิดการเดินทางและการขนส่งในภูมิภาคสะดวก เป็นเสมือนประตูการค้าเชื่อมอาเซียนและโลก
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่กระทรวงฯ มีแผนผลักดันการลงทุนในปีนี้ อาทิ โครงการ MR-MAP เพื่อพัฒนาทางรถไฟและทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) รวม 10 เส้นทาง ระยะทางกว่า 7,003 กิโลเมตร ครอบคลุมทั่วประเทศซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแนวเส้นทาง เช่นเดียวกับโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร - ระนอง ที่ภายในโครงการจะพัฒนาท่าเรือน้ำลึก ทางรถไฟและมอเตอร์เวย์ ปัจจุบันเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลงทุนอื่นๆ เช่น มอเตอร์เวย์วงแหวนตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน - บางบัวทอง วงเงิน 56,035 ล้านบาท มอเตอร์เวย์สายวงแหวนตะวันตก ช่วงบางบัวทอง - บางปะอิน วงเงิน 23,025 ล้านบาท มอเตอร์เวย์สายนครปฐม – ปากท่อ วงเงิน 43,227 ล้านบาท และส่วนต่อขยายยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) วงเงิน 31,358 ล้านบาท
เช่นเดียวกับโครงการระบบรางที่จะผลักดันส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง 5 โครงการ วงเงินรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ภายในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเปิดประกวดราคารวมไปถึงขนส่งทางน้ำที่กระทรวงฯ อยู่ระหว่างผลักดันการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ การพัฒนาท่าเรือสำราญทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ส่วนระบบขนส่งทางอากาศที่อยู่ระหว่างพัฒนาขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3