‘โสด’ เที่ยวไหน? ติดตามจากผลสำรวจโดย SCB EIC
ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคไทยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ (SCB EIC Consumer survey 2022) ในช่วงวันที่ 8-22 กรกฎาคม 2022 พบว่า คนโสดถือเป็นอีกกลุ่มที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว โดยปกติคนโสดมากกว่า 20% ท่องเที่ยวมากกว่า 5 ครั้งต่อปี
สาวโสดและหนุ่มโสด...ความโสดเหมือนแต่ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวต่าง
คนโสดส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน แต่หนุ่มโสดรุ่นใหม่ชอบเดินทางคนเดียว โดยราว 20% ของหนุ่มโสดชอบเดินทางคนเดียว ซึ่งมากกว่าสาวโสดถึง 2 เท่า และเป็นหนุ่มโสด Gen Z ที่เดินทางคนเดียวถึง 38% ขณะที่คนโสดวัยเกษียณ (Baby boomer) มากกว่าครึ่งใช้เวลาว่างท่องเที่ยวกับก๊วนเพื่อน
แหล่งท่องเที่ยวโดนใจต้องสะดวกเดินทางและสบายกระเป๋า โดยสาวโสดจะเน้นที่พักสุดฮิปแต่ยังมีความกังวลด้านสุขอนามัยมากกว่าหนุ่มโสด ทำให้สาวโสดมักหลีกเลี่ยงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทาง Social media, แหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมหลากหลาย อย่างงานเทศกาล งานคอนเสิร์ต
โสดสายชิล พักกายให้หายเหนื่อยแล้วตะเวนขอพรให้ปัง หนุ่มโสดส่วนใหญ่จะเน้นเข้าถึงธรรมชาติและสัมผัสวิถีชุมชน ขณะที่สาวโสดเน้นพักผ่อน จิบกาแฟ และซื้อของฝาก โดยสาวโสด Gen Y กว่า 55% จะใช้เวลานั่งชิลในคาเฟ่ ขณะที่หนุ่มโสด Gen Y และ Gen X มากกว่าครึ่งเลือกที่จะแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง อุทยานแห่งชาติ ทะเล อย่างไรก็ดี แหล่งรวมคนโสดยุคนี้ก็หนีไม่พ้นวัดศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่
ที่พักฉบับคนโสดต้องใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย ซึ่งที่พักใกล้แหล่งช้อปปิ้งจะถูกใจสาวโสดมากกว่าหนุ่มโสด สาวโสดจะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัยมากถึง 36% เมื่อเทียบกับหนุ่มโสดที่มีเพียง 28% โดยสาวโสด Gen Z ราว 43% จะมองหาที่พัก Eco-friendly ขณะที่หนุ่มโสด Gen Z จะชอบความพิเศษกับบริการแบบ Personalization นอกจากนี้ สาวโสดมากกว่า 1 ใน 3 จะเลือกพักโรงแรม 4-5 ดาว ขณะที่หนุ่มโสดส่วนใหญ่เลือกพักโรงแรม 2-3 ดาว โดย 32% จะเข้าพักโดยไม่ได้จองล่วงหน้า (Walk-in) ซึ่งแตกต่างกับคนโสดทั่วไปที่จองที่พักผ่านผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์เป็นหลัก
ทั้งนี้ SCB EIC มองว่า 3 กลยุทธ์สำคัญที่โดนใจคนโสด ได้แก่
การนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนโสด เนื่องจากคนโสดส่วนใหญ่เลือกแหล่งท่องเที่ยวจากความสะดวกในการเดินทางและงบประมาณค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ดังนั้นการ เสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวที่เพิ่มความสะดวกสบายแถมมีโปรโมชันที่โดนใจจะสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เช่น แพ็กเกจท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปเล็กส่วนตัวสำหรับการท่องเที่ยวกับครอบครัวหรือก๊วนเพื่อน และแพ็กเกจท่องเที่ยวสำหรับคนโสดเดินทางคนเดียวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่
การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและการนำเสนอบริการที่สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่แก่นักท่องเที่ยว เช่น การออกแบบและการตกแต่งที่มีสไตล์แตกต่าง การใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการยกระดับการให้บริการ รวมถึงการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล
การสร้างแบรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งราว 1 ใน 3 ของคนโสดมองหาที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น การสร้างแบรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมจึงถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้