เอกชนเกาะเสม็ดเดือดร้อนขึ้นค่าธรรมเนียม

เอกชนเกาะเสม็ดเดือดร้อนขึ้นค่าธรรมเนียม

ผู้ประกอบการเกาะเสม็ดเดือดร้อนหนัก กรมอุทยานฯ เพิ่มค่าธรรมเนียมเกาะย่อย ขึ้นค่าธรรมเนียมเรือโดยสารรายปีเพิ่มอีก 3เท่า รถโดยสารคันละ 16,000 บาท จยย. 1,600 บาท ไม่เว้นหาบเร่แผงลอย ด้านอุทยานฯ แจง ค่าเรือปรับตามกฎกระทรวงใหม่

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่นได้เดินทางไปยัง เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบกรณีที่ นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคโอกาสไทย อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกมาเปิดเผยในรายการข่าวว่า ได้รับการร้องเรียนว่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง มีการเรียกเก็บเงินจากรถสองแถวที่วิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด รายละ 16,000 บาทต่อปี จำนวน 50 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์คันละ 1,600 บาทต่อปี รวมถึงการก่อสร้างต่อเติมในพื้นที่อุทยานฯ ที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับการอนุญาต ทั้งที่ทำไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย


นายยานยนต์ อรุณเวสสะเศรษฐ ผู้ประกอบการท่าเรือโดยสารข้ามเกาะเสม็ด บอกว่า มีความเดือดร้อน เพราะถูกขึ้นค่าธรรมเนียมเรือทุกชนิดที่ผ่านเข้าออกพื้นที่อุทยานฯ โดยขึ้นราคาจากเดิมอีก3เท่าตัว จาก 3,000 บาท เพิ่มเป็น 12,000 บาท จึงเดือดร้อนกันมาก เพราะทุกรายต่างเพิ่งผ่านวิกฤตจากสถานการณ์โควิด19 ระบาด ก็เท่ากับเป็นการซ้ำเติมกัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวก็จ่ายให้มาตลอดทั้งที่แทบจะไม่ได้ประกอบการใด ๆ  นอกจากนี้ความเดือดร้อนยังรวมถึงเรื่องการเก็บเงินค่าผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด คือพื้นที่ทั้งหมดในอุทยานฯ แต่กลับมีการตั้งกฎขึ้นใหม่ว่า หากนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการไปดำน้ำ เกาะกุฎี เกาะทะลุ และ เกาะปลาตีน ต้องเสียเงินเพิ่มอีกคนละ 100 บาท ทั้งที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จึงสร้างความไม่พอใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องมาจ่ายซ้ำซ้อน ผู้ประกอบก็ไม่สามารถอธิบายได้กับมาตรการดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีปรากฏ


ด้าน นายโนรี ตะถา ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ชี้แจงว่า การเก็บค่าเข้าอุทยานฯ เพิ่ม เป็นการเก็บเฉพาะชาวต่างชาติ เป็นประกาศมาจากกรมฯ กำหนดให้ต้องเก็บเพิ่มคนละ 100 บาท จากเดิม 200 บาท โดยเก็บในพื้นที่สวยงามเปราะบาง ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเกาะเสม็ด เสียค่าเข้า คนละ 200 บาท หากไปต่อที่เกาะทะลุ เกาะกุฏี ก็เก็บเพิ่มคนละ 100 บาท ส่วนการเก็บค่าเรือโดยสารจากผู้ประกอบการเพิ่มนั้น เป็นกฎกระทรวงที่เพิ่งออกมาเมื่อปลายปี พ.ศ 2565 ซึ่งค่าธรรมเนียมเก่าก็นานมาแล้ว แต่บังเอิญมามีผลตอนนี้พอดี ในช่วงที่เพิ่งผ่านการระบาดของโควิด


สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการอื่น ๆ เช่น หาบเร่ แผงลอย รถโดยสาร จะมีกลุ่มของแต่ละอาชีพ ซึ่งตั้งกฎระเบียบและบริหารสมาชิกกันเอง อุทยานฯ ดูแลกำหนดให้ไม่เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวอย่างมีความสุข ไม่ทำลายบรรยากาศและความเสียหาย ต่อนักท่องเที่ยวและธรรมชาติ ยืนยันว่า อุทยานฯ ไม่ได้เข้าไปเก็บเงินแต่อย่างใด