ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วงลง 47 เซนต์ หลังสหรัฐเผยสต็อกเพิ่มเกินคาด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(15ก.พ.) ร่วงลง 47 เซนต์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 47 เซนต์ ปิดที่ 78.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 85.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 16.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล
ด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 10.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้รับผลกระทบ หลังสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันจากคลังสำรอง
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงจะทำการจำหน่ายน้ำมัน 26 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำมันในคลังอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2526
ก่อนหน้านี้ กระทรวงได้พิจารณาที่จะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันในปีงบประมาณ 2566 หลังจากทำการระบายน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรลจาก SPR ในปี 2565 เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี การยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส
ขณะเดียวกัน นักลงทุนกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน