วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 ก.พ. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสหรัฐฯ ระบายน้ำมันจาก SPR เพิ่มเติม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สูงกว่าคาด
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประกาศแผนการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพิ่มอีก 26 ล้านบาร์เรลในช่วงเดือน เม.ย-มิ.ย. 66 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าปริมาณน้ำมันในคลังสำรองจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1983
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 6.4 % Y-o-Y สูงกว่าคาดที่ระดับ 6.2 % ส่งผลให้ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันที่ 4.50– 4.75 % สู่ระดับ 5.25 – 5.50 % ผ่านการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25 % ในการประชุม 3 ครั้งถัดไป
- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 ก.พ. 66 ปรับเพิ่มขึ้น 10.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียและมาเลเซียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงรอมฎอน ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของเวียดนามในเดือน ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าราว 10.6 %
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น จากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นในไต้หวันในช่วงต้นเดือน มี.ค.