กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กางแผนตรวจธุรกิจเสี่ยง “นอมินี” ปี 66

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กางแผนตรวจธุรกิจเสี่ยง “นอมินี” ปี 66

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย แผน ปี66 ตรวจนอมินี 3 กลุ่มเสี่ยง ท่องเที่ยว อสังหา โรงแรม ใน 9 จังหวัดท่องเที่ยว และกรุงเทพ ป้องกันคนไทยช่วยเหลือต่างด้าวเลี่ยงกฎหมาย ส่วนผลตรวจที่ผ่านมา พบเข้าข่ายเพียบ ส่งดีเอสไอสอบเชิงลึก และดำเนินคดีแล้ว 66 ราย

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 66 กรมจะเดินหน้าตรวจสอบนิติบุคคลไทยที่มีคนต่างด้าวร่วมถือหุ้นที่อาจมีลักษณะนอมินี อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรามมิให้คนไทย หรือนิติบุคคลไทยมีการกระทำในลักษณะให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจ หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) เพื่อให้คนต่างด้าวหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนการดำเนินการภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542  

 โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะตรวจสอบ จะเป็นนิติบุคคลไทยที่ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มธุรกิจ คือ ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง 161 ราย, ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ และถือครองอสังหาริมทรัพย์ 123 ราย และธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท 41 ราย รวม 325 ราย ในพื้นที่เป้าหมาย 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และกรุงเทพฯ สำหรับกรุงเทพฯ จะเน้นตรวจสอบธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก เป็นต้น ในย่านเยาวราชและเขตห้วยขวาง ที่กำลังเป็นประเด็นเรื่องกลุ่มทุนจีนเข้ามาประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี  

การตรวจสอบนิติบุคคล ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ กรมได้ที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมที่ดิน กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดยมีการประสานข้อมูลและลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่องตลอดมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 58”  

ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดนอมินี กรมจะส่งข้อมูลให้ดีเอสไอ สืบสวนสอบสวนเชิงลึก โดยหากพบว่า มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายเป็นนอมินีจริง จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 - 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน กรรมการบริษัทก็ต้องมีความผิดด้วย 

 

สำหรับผลการตรวจสอบนอมินีตั้งแต่ปีงบประมาณ 58-65 พบว่า ปี 64 พบพฤติกรรมที่อาจเข้าเป็นความผิดนอมินี มากสุดถึง 145 ราย เป็นธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 44 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเกี่ยวเนื่อง 89 ราย ธุรกิจโรงแรม/รีสอร์ท 3 ราย ธุรกิจบริการ 9 ราย ส่วนปี 58 เข้าข่าย 13 ราย, ปี 59 เข้าข่าย 15 ราย, ปี 60 เข้าข่าย 4 ราย, ปี 61 เข้าข่าย 2 ราย, ปี 62 เข้าข่าย 4 ราย, ปี 63 เข้าข่าย 5 ราย และปี 65 เข้าข่าย 3 ราย ซึ่งทั้งหมดได้ส่งให้ดีเอสไอตรวจสอบเชิงลึกไปแล้ว และได้ดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับนอมินีแล้วรวม 66 ราย  

อย่างไรก็ตาม กรมได้กำหนดแนวทางการป้องปรามธุรกิจที่มีลักษณะนอมินี ทั้งก่อนและหลังการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล โดยก่อนจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล กำหนดให้ส่งเอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรอง หรือแสดงฐานะการเงินของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นคนไทยที่ลงทุนหรือถือหุ้นในนิติบุคคลร่วมกับคนต่างด้าว เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือว่าคนไทยที่ร่วมลงทุนมีฐานะทางการเงินที่สามารถลงทุนเองได้ และภายหลังจดทะเบียน กรมจะจัดทำข้อมูลนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง และกำหนดเป็นแผนงานโครงการประจำปี เพื่อตรวจสอบเชิงลึก ซึ่งมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรดำเนินการตรวจสอบ