เช็ก 8 หุ้นนิคมฯ-โรงไฟฟ้า รับประโยชน์ดาต้าเซนเตอร์ เหลืออัพไซด์เท่าไร?

ปัจจุบัน "ดาต้าเซ็นเตอร์" หรือศูนย์ข้อมูลถือเป็นโครงสร้างสำคัญของระบบ IT ในองค์กรที่ต้องอาศัยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพโดยรองรับการเติบโตของการใช้คลาวด์ AI บริการดิจิทัลต่าง ๆ และในช่วงหลังในประเทศไทยมีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาลงทุน "ดาต้าเซ็นเตอร์" กันมากขึ้น โดยหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้า ที่ต้องใช้เป็นจำนวนมาก จึงได้รับอานิสงส์เป็นลำดับแรก ๆ  แต่ทว่ามีข้อควรระวังในเชกเตอร์ของหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีปัจจัยเสี่ยงเฉพาะตัว

จากกระทรวงพลังงานที่มีการเข้ามาแทรกค่าไฟอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ขออาสาพาไปส่องหุ้นนิคมอุตสาหกรรมและหุ้นโรงไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์ดาต้าเซนเตอร์ เหลืออัพไซด์เท่าไร?

4 หุ้นนิคมอุตสาหกรรมรับประโยชน์ดาต้าเซนเตอร์

1.บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WHA

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 5.50 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 6.37 บาท 
• เหลืออัพไซด์  15.82%

2.บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) AMATA

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 27.75 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 33.31 บาท 
• เหลืออัพไซด์  20.04%

3.บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ROJNA 

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 6.05 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 9.20 บาท 
• เหลืออัพไซด์  52.07%

4.บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) PIN

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 6.20 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 7.00 บาท 
• เหลืออัพไซด์  12.90%

4 หุ้นโรงไฟฟ้ารับประโยชน์ดาต้าเซนเตอร์

1.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) GULF 

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 57.50 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 64.75 บาท 
• เหลืออัพไซด์  12.61%

2.บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) WHAUP

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 4.64 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 5.74 บาท 
• เหลืออัพไซด์  23.71%

3.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) GPSC 

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 37.25 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 50.75 บาท 
• เหลืออัพไซด์  36.24%

4.บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) BGRIM

• ราคา ณ วันที่ 3 ม.ค.68 ที่ 19.00 บาท 
• ราคาเป้าหมาย ปี 68 ที่ 27.00 บาท 
• เหลืออัพไซด์  42.11%

ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ดาต้าเซนเตอร์ปัจจุบันเข้ามาลงทุนในไทยหลายราย ทำให้เป็นบวกกับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่มาตั้งดาต้าเซนเตอร์กันในนิคมอุตสาหกรรม และหลังจากนั้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ต่อไปเป็นกลุ่มของโรงไฟฟ้า ที่ต้องใช้เป็นจำนวนมากและไม่สามารถที่จะโดนตัดขาดได้ เนื่องจากหาไฟฟ้าขาดจะทำให้เกิดความเสียหายกับดาต้าเซนเตอร์ทันที จึงถือว่าเป็นปัจจัยบวกของทั้ง 2 กลุ่ม

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมีการตอบรับเชิงบวกไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันอัพไซด์อาจจะเหลือไม่ค่อยเยอะ เว้นแต่ว่ามีบริษัทเจ้าใหม่ประกาศเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมอาจจะมีส่วนเพิ่มเข้ามาได้ 

ส่วนโรงไฟฟ้ามีปัจจัยเสี่ยงเฉพาะตัว เนื่องจากรัฐมนตรี กระทรวงพลังงาน มีการเข้ามาแทรกค่อยข้างบ่อยครั้ง ในเรื่องของค่าไฟ ทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้ามีความเสี่ยงเชิงนโยบายเข้ามาด้วย รวมถึงบอนด์ยีลด์ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็จะได้รับเซนติเมนเชิงลบไปด้วย 

สำหรับหุ้นที่มีความน่าสนใจในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม คือ WHA และ AMATA ส่วนหุ้นโรงไฟฟ้า WHAUP BGRIM GPSC ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า PP ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่ GULF ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย แต่ไม่ได้เยอะมากเมื่อเทียบกับ BGRIM GPSC ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าเน้นนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่ GULF มีการกระจายไปทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม GULF จะได้ในภาพรวมที่มีการทำดาต้าเซนเตอร์ และระบบไฟ ทำให้ได้รับประโยชน์จากธีมนี้ไปด้วยแบบครบวงจร  

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภาพใหญ่ของธุรกิจดาต้าเซนเตอร์สิ่งแรกคือต้องพื้นที่ขนาดใหญ่ แล้วดาต้าเซนเตอร์ หรือ AI เวลาที่มีเสิร์ชหาข้อมูล AI ก็จะไปดึงข้อมูลจากดาต้าเซนเตอร์ที่ทำการลงทุนไว้ และเมื่อเวลามีการเสิร์ชข้อมูล หรือ ChatGPT เครื่อง Server ต้องทำงานตลอดเวลา จึงทำให้ความร้อนสูงขึ้น เพราะฉะนั้นดาต้าเซนเตอร์นอกจากจะต้องการพื้นที่จำนวนมากแล้ว ยังต้องการน้ำที่เยอะ และเมื่อด้าต้าเซนเตอร์ทำงานก็ต้องมีการรันข้อมูลตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ ซึ่งประเทศไทยตอบโจทย์หมดทั้ง 3 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นพื้่นที่ น้ำ และไฟฟ้า หลายบริษัทจึงมาลงทุนที่ไทยค่อนข้างเยอะ และหลังจากนี้น่าจะมีบริษัทอื่นๆ เข้ามาอีก 

ดังนั้นในภาพใหญ่ธุรกิจดาต้าเซนเตอร์ในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงกำลังค่อย ๆ เติบโต โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์เป็นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์เต็ม ๆ  อย่าง WHA  AMATA และที่ได้ประโยชน์ต่อมาค่อโรงไฟฟ้าที่มีการขายไฟ อย่าง GPSC และ BGRIM ที่มีการขายไฟให้กับนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก จีงทำให้เซกเตอร์นี้มีโอกาสเติบโตได้ ทำให้มีอัพไซด์ได้ 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระมัดระวังคงเป็นในเรื่องของคู่แข่ง เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่กำลังมา และมีหลายประเทศที่ต้องการแข่งกับไทยเข่นกัน ซึ่ง ณ ปัจจุบันประเทศที่มีพื้นที่เยอะในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่แค่ไทย ซึ่งยังมีประเทศเวียดนามด้วย แต่เวียดนามยังมีข้อจำกัดในเรื่องของไฟฟ้าที่ยังไม่ค่อยเสถียรมาก ขณะที่ไฟฟ้าบ้านเรามีความเสถียรมากกว่า จึงทำให้หลายประเทศเข้ามาลงทุนดาต้าเซนเตอร์ในไทย แต่ทว่าวันหนึ่งเวียดนามมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ดีก็จะเป็นคู่แข่งกับประเทศไทยได้ในอนาคต