ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง 2.58 ดอลล์ ผวาเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์(17ก.พ.)ปรับตัวลง 2.58 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 2.58 ดอลลาร์ หรือ 3.29% ปิดที่ราคา 75.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 2.58 ดอลลาร์ หรือ 3.03% ปิดที่ราคา 82.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
โกลด์แมน แซคส์ ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50%
ด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน ยังถูกกระทบจากการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงจะทำการระบายน้ำมัน 26 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำมันในคลังอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2526
ก่อนหน้านี้ กระทรวงได้พิจารณาที่จะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันในปีงบประมาณ 2566 หลังจากทำการระบายน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรลจาก SPR ในปี 2565 เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี การยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส