‘การเมือง’ เงื่อนไขเศรษฐกิจปี 66 ตั้งรัฐบาลช้า – งบฯสะดุด เสี่ยง GDP โตต่ำ 3%
นักวิชาการนิด้าห่วงเศรษฐกิจไทยปี 66 โตต่ำกว่า 3% แม้ สศช.คาดการณ์โตได้ 3.2% ระบุเงื่อนไขทางการเมืองสำคัญจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า รัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมไม่ได้ และปัจจัยเศรษฐกิจโลกไม่เอื้อการเติบโตของการส่งออกฉุดเศรษฐกิจโตต่ำคาด
นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บางส่วนในแง่ของกำลังซื้อของประชาชน แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะได้รับผลกระทบในแง่ของการขับเคลื่อนการใช้จ่ายของภาครัฐและการจัดทำงบประมาณที่ล่าช้าออกไปเนื่องจากเมื่อมีการยุบสภาในเดือน มี.ค.รัฐบาลจะไม่สามารถอนุมัติงบประมาณใหม่ได้
นอกจากนั้นกว่าที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ก็ต้องใช้เวลาไปจนถึงเดือน ส.ค.ซึ่งทำให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2567 จะล่าช้าออกไป เนื่องจากรัฐบาลใหม่จะมีการทบทวนรายละเอียดการจัดสรรงบประมาณทำให้การประกาศใช้ พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2567 จะล่าช้าออกไปถึงประมาณเดือน พ.ย.2566 จากปกติจะประกาศใช้ภายใน 1 ต.ค.2566
ทั้งนี้นอกจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ลดลง และความล่าช้าจากการจัดทำงบประมาณ รวมทั้งการส่งออกที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อภาคการส่งออกไทยในปีนี้ค่อนข้างมากจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจขยายตัวได้ไม่ถึง 3% ซึ่งต่ำกว่าที่ สศช.คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 3.2% และต่ำกว่าศักยภาพของเศรษฐกิจไทยที่ควรจะเติบโตได้ประมาณ 4 – 5% ต่อปี
“จีดีพีไทยตอนนี้ประมาณ 16 ล้านล้านบาท ถ้าจะขยายตัวไปถึง 17 ล้านล้านบาท คือขยายตัวได้ประมาณ 3% ถามว่าจะไปถึงได้หรือไม่ เพราะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ค่อนข้างมีข้อจำกัดมากทั้งในแง่ของแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเบิกจ่ายจากภาครัฐ รวมทั้งการจัดทำงบประมาณที่ล่าช้า
รวมถึงการส่งออกที่อาจจะขยายตัวเป็นศูนย์หรือไม่ขยายตัวเลยในปีนี้ ซึ่งโดยปกติการขยายตัวของการส่งออก 4% จะทำให้จีดีพีไทยขยายตัวได้ 1% แต่ถ้าการส่งออกไม่ขยายตัวเลยก็จะไม่มีแรงส่งจากภาคการส่งออก ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 3% ได้ยาก และถือว่าเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่ำกว่าศักยภาพ”นายมนตรี กล่าว
