"จุรินทร์" ปลื้มผลหารือทูตอียู 16 ชาติ ผลักดันเอฟทีเอดึงรายได้เข้าประเทศ
"จุรินทร์" พอใจ ผลหารือ ทูตอียู 16 ประเทศ หารายได้เข้าประเทศ ภายใต้ ยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ขอแรงหนุน ทูตอียู ผลักดัน FTA ไทย - อียู ตั้งเป้าแล้วเสร็จ ไตรมาสแรก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่คณะเอกอัครราชทูต จากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ประจําประเทศไทย จำนวน 16 ประเทศ นำโดย นาย เดวิด เดลี (H.E. Mr. David Daly) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย เดินทางมาพบปะเยี่ยมเยียน ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์
ในช่วงเริ่มต้น นายเดวิด เดลี กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จของนายจุรินทร์ ที่ได้นำคณะเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อร่วมประชุมทวิภาคีกับสหภาพยุโรป หรือ อียู และได้มีการหารือนัดสำคัญระหว่างนายจุรินทร์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับ H.E. Mr. Valdis Dombrovskis (นายวัลดิส โดมโบรฟสกิส) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจ และกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า หรือรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหภาพยุโรป
ซึ่งนายจุรินทร์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเจรจา FTA หรือ Mini FTA ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้ให้กับประเทศ และเป็นสร้างเงินในอนาคตให้กับประเทศ โดยแนวทางการสร้างเงินของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ใหญ่ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ที่จะสร้างเงินสองส่วนหลักคือ 1. การสร้างเงินให้กับคนไทย และ 2. คือ การสร้างเงินให้กับประเทศ ซึ่งถือเป็นความโดดเด่นของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอื่นที่เน้นเรื่องการใช้เงินมากกว่าการหาเงินให้กับประเทศ
นายจุรินทร์ ยังได้ขอความสนับสนุนจากท่านทูตอียูทั้งหมดในการทำ FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป 27 ประเทศ หลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้ ตนได้เดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อหารือเรื่องดังกล่าวกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีการค้าของสหภาพยุโรป (นายวัลดิส โดมโบรฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจ และกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า) ซึ่งได้ข้อสรุปว่าแต่ละฝ่ายจะเร่งดำเนินการ กระบวนการภายในให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
สำหรับประเทศไทยได้ดำเนินการภายในจบแล้ว โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ในเรื่องการทำ FTA ไทยกับสหภาพยุโรปไปแล้วเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะนี้รอเพียงความเห็นชอบจาก 27 ประเทศในฝ่ายของสหภาพยุโรป ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จะได้มีการประชุมระดับแกนนำอีกวงหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่อง FTA ไทย-อียู หากทางอียูให้การรับรอง ก็จะเป็นการนับหนึ่งประกาศอย่างเป็นทางการเริ่มเจรจาทำ FTA ไทย-อียูต่อไปได้
โดยตั้งเป้าร่วมกันว่าจะทำให้เสร็จในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายไทยจะทำให้เรามีแต้มต่อในการส่งสินค้า และบริการไปสหภาพยุโรปได้ถึง 27 ประเทศ ซึ่งถือเป็นการสร้างเงิน สร้างชาติ สร้างอนาคตให้ประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดอีกเรื่อง
นอกจากนี้เอกอัครราชทูตจากหลายประเทศยังได้สอบถามถึงทิศทาง และนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมระหว่างประเทศ ซึ่งนายจุรินทร์ ได้ตอบว่า ทางการเมืองระหว่างประเทศ เราถือแนวทางของสหประชาชาติในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศสมาชิก และท่าทีล่าสุดในเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน เรามีมติสอดคล้องกับสหประชาชาติ
ส่วนทางด้านเศรษฐกิจ เรายึดหลักขององค์การการค้าโลกหรือ WTO ที่ไทยเป็นสมาชิก และถือเป็นความร่วมมือภายใต้กรอบกติกาที่ใหญ่ที่สุดอันเป็นที่ยอมรับ สำหรับเรื่องสังคมนั้น ยึดหลักการพัฒนาประเทศและภูมิภาคของเราไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งจะเน้น และให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ประเทศ และโลกต่อไป
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงการที่วานนี้ ตนได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นชอบการทำ FTA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ แจ้งไปทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อร่วมกันประกาศนับหนึ่งเพื่อเดินหน้า FTA ไทย-ยูเออี อีกฉบับอย่างเป็นทางการ โดยจะเป็นการสร้างเงิน สร้างชาติให้กับอนาคตประเทศไทย ภายใต้การทำงานของพวกเรา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์