เปิดเหตุผล ‘พลังงาน’ ตรึงดีเซล 34 บาท ลุ้นต่อสัปดาห์หน้าเคาะลดราคาหรือไม่
“พลังงาน” ระบุสถานการณ์น้ำมันโลกเดือน มี.ค. 2566 ยังคงผันผวน “สุพัฒนพงษ” สั่งตรึงราคาดีเซลลิตรละ 34 บาทต่อเนื่อง ลุ้นสัปดาห์หน้าเคาะปรับราคาอีกรอบ
จากกรณีที่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์พลังงานโลกเดือนมีนาคม 2566 ว่ายังคงมีปัจจัยที่จะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงผันผวนอยู่ ทั้งจากการเปิดประเทศของจีน ความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย จึงมีมติคงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในสัปดาห์แรกของเดือนนี้ไว้ที่ 34 บาทต่อลิตร
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาข้อมูลต่างๆ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แล้วเห็นว่า มีปัจจัยและสิ่งที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดำเนินการแล้ว ดังนี้
- ราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 107.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 8.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดือนมกราคม 2566
- กบน. เห็นชอบลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 0.50 บาทจำนวน 2 ครั้ง ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 34 บาทต่อลิตร
- กบน. เห็นชอบเพิ่มค่าการตลาดในกลุ่มน้ำมันดีเซล 0.40 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าตลาดกลุ่มน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.80 บาทต่อลิตร
สำหรับในเดือนมีนาคม 2566 สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวนจากปัจจัยสำคัญ อาทิ การเปิดประเทศของจีนส่งผลให้การใช้น้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ตลอดจนสถานการณ์การส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงของรัสเซีย ด้วยปัจจัยต่าง ๆ และสิ่งที่ดำเนินการมาแล้ว กบน. เห็นว่าในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมนี้จึงให้คงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ประมาณ 34 บาทต่อลิตรต่อไป
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนราคาน้ำมันดีเซลเนื่องจากเป็นสัดส่วนที่มีการใช้งานสูงสุดโดยเฉพาะค่าขนส่งที่มีผลต่อราคาสินค้า แต่ด้วยราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) ยังคงผันผวน แม้ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังคงเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เฉลี่ยลิตรละกว่า 4 บาท หรือวันละประมาณ 325 ล้านบาท แต่เงินกองทุนยังคงติดลบกว่า 1 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ขณะนี้ กองทุนน้ำมันฯ อยู่ระหว่างหารือกับสถาบันทางการเงินเพื่อขอกู้เงินรอบ 2 ที่ 80,000 ล้านบาท ซึ่งหากได้เงินก้อนนี้มา กบน. ก็น่าจะมีมติให้ลดราคาดีเซลลงได้อีกระดับลิตรละ 1 บาท เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง และลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนลง ซึ่งขณะนี้เพื่อนบ้านอย่างเวียดนามก็มีราคาที่ถูกลง ดังนั้น มองว่ารัฐบาลก็คงมองในจุดนี้เช่นกัน
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิติดลบ 104,012 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 57,917 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 46,095 ล้านบาท