อุตสาหกรรม’ เซ็นเปิดเหมืองทอง จับตาเสียงหนุน-ค้าน ‘อัครา’
“เหมืองทองคำอัครา” เป็นหนึ่งในโครงการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่จับตามองของประชาชน จากกรณีข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศตั้งแต่ปี 2563 โดยขณะนี้ "อัครา" กำลังจะกลับมาเปิดทำเหมืองอีกครั้ง หลังจากที่อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์เข้าตรวจสอบตามขั้นตอนแล้ว
Key Points
- ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับคิงส์เกตในประเด็นเหมืองยืดเยื้อมากว่า 6 ปี
- กระทรวงอุตสาหกรรมได้ตรวจความพร้อมและออกหนังสืออนุญาตเปิดเหมือง
- ที่ผ่านมาภาครัฐต้องตรวจสอบให้รอบคอบเพราะเป็นโครงการที่สังคมจับตามอง
- ขณะนี้มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงค้านต่อการกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง
บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้เตรียมเปิดการทำเหมืองแร่ทองคำชาตรีอีกครั้ง โดยมีการลงทุนปรับปรุงซ่อมแซมเป็นวงเงินกว่า 600 ล้านบาท โดยยื่นหนังสือถึงสำนักงานอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2566 โดยตามขั้นตอนการขออนุญาตเปิดการทำเหมืองได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 5 พิษณุโลก (สรข.5) เพื่อส่งเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่เข้าตรวจพิจารณาความพร้อมโรงถลุง เครื่องจักรและสารเคมี
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ได้เข้าไปตรวจสอบเหมืองในช่วงต้นเดือน มี.ค.2566 และได้เสนอรายงานการตรวจสอบการขออนุญาตเปิดการทำเหมือง (แบบ พร. 207) ไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ได้มีการออกหนังสืออนุญาตให้บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เปิดการทำเหมืองทองได้อีกครั้ง ในพื้นที่ประทานบัตรทั้ง 4 แปลง ได้แก่ ประทานบัตรที่25528/14714 ในพื้นที่ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์
ประทานบัตรที่ 26910/15365 ประทานบัตรที่ 26911/15366 และประทานบัตรที่ 26912/15367 ในพื้นที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร
รวมทั้งที่ผ่านมาได้พิจาณาอย่างรอบคอบและรัดกุม และคำนึงถึงมาตรการความปลอดภัย เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและมีประทานบัตรหลายแปลงทำให้ใช้เวลาพอสมควรในการพิจารณา
ทั้งนี้ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม การอนุญาตเปิดการทำเหมืองจะพิจารณาโดยอุตสาหกรรมจังหวัดประจำท้องที่ โดยไม่ต้องส่งเรื่องมาที่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ (กพร.) ส่วนกลาง โดยในระหว่างการพิจารณานี้ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เตรียมการเพื่อการทำเหมืองได้ เช่น การปลูกสร้างอาคาร ติดตั้งเครื่องทุ่นแรงการทำเหมือง ขุดทางน้ำ ทำทำนบ หรือกระทำการใดๆ ในเขตประทานบัตรเพื่อเป็นประโยชน์แก่การทำเหมือง
ขณะนี้มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงคัดค้านการกลับมาเปิดเหมือง
โดยเสียงจากประชาชนในพื้นที่ส่วนหนึ่ง ระบุว่าอยากให้เหมืองกลับมาเปิดอีกครั้ง เพื่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่และมีงานทำในช่วงที่พักจากการเกษตรและทำนาตามฤดูกาล
ขณะเดียวกันบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เคยออกมาชี้แจงถึงการสนับสนุนของชุมชนต่อการเปิดเหมืองทองคำระบุว่า บริษัทได้เปิดรับสมัครพนักงาน จำนวน 160 อัตรา ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565 ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก มีผู้สมัครมากว่า 1,700 คน โดยอัคราจะพิจารณาผู้สมัครที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่เป็นอันดับแรก
โดยแผนการดำเนินงานระยะแรกนั้นจะใช้โรงประกอบโลหกรรมที่ 2 เพียงโรงเดียว ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.7 ล้านตันต่อปีและภายหลังที่บริษัทฯ กลับมาดำเนินการไปแล้วสักระยะหนึ่ง จึงจะเริ่มซ่อมโรงประกอบโลหกรรมที่ 1 ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่2.3 ล้านตันต่อปี จากนั้นจึงจะรับพนักงานเพิ่มเพื่อรองรับปริมาณงานที่มากขึ้นต่อไป
นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกระแสตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ ว่า พี่น้องในชุมชนที่ต้องจากบ้านเกิดไปหางานทำที่อื่นได้ทยอยเดินทางกลับมาในพื้นที่ ส่วนหนึ่งก็จะกลับมาเป็นพนักงานของเหมือง ในขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งก็เตรียมหาลู่ทางทำธุรกิจที่จะมารองรับเศรษฐกิจที่จะคึกคักขึ้นหลังจากที่เหมืองกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่เรามีส่วนช่วยให้สถาบันครอบครัวมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และผลกระทบเชิงบวกทางด้านสังคมเช่นนี้มีคุณค่ามหาศาลและไม่สามารถประเมินค่าได้
แม้บริษัทฯ ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ แต่การจับจ่ายใช้สอยของพนักงานและผู้รับเหมาของบริษัทฯ ที่มาซ่อมแซมโรงงานและเครื่องจักรในช่วงที่ผ่านมาส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนอย่างชัดเจน
โดยผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารในพื้นที่ เปิดเผยว่า ช่วงที่เหมืองเริ่มซ่อมแซมโรงงาน ยอดขายเพิ่มขึ้นมาเป็นหลักหมื่นได้ โดยทุกเช้าจะมีผู้รับเหมาและพนักงานของเหมืองวนเวียนมาซื้อของกินเล็กน้อยก่อนไปทำงาน และหลังเลิกงานร้านก็จะคึกคักเป็นพิเศษ รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากจำนวนลูกค้าที่มากขึ้นในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา
แหล่วข่าว เปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวการกลับมาเปิดเหมืองทองชาตรีอีกครั้ง ยังคงได้รับเรื่องคัดค้านร้องเรียนจากชาวบ้านส่วนหนึ่งเข้ามาต่อเนื่อง โดยได้แสดงเจตนาไม่ต้องการให้กลับมาเปิดเหมืองอีกเลย และไม่ต้องการให้ในพื้นที่มีวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมือง ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาเก่ายังเคลียร์ไม่จบ รวมทั้งความกังวลเรื่องปัญหาสุขภาพ ซึ่งหนังสือร้องเรียนดังกล่าวไม่ได้คัดค้านในนามองค์กรหรือกลุ่มใด แต่เป็นการร้องเรียนในนามบุคคลต่อการต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่