จ่อขึ้นแท่นสัตว์เศรษฐกิจ ‘เต่ายักษ์’ ตัวละ 5 พัน!

จ่อขึ้นแท่นสัตว์เศรษฐกิจ ‘เต่ายักษ์’ ตัวละ 5 พัน!

อดีตนายกเทศมนตรีตำบลพรหมบุรี ใช้พื้นที่ข้างบ้านพัก ทำเป็นบ่อเพาะเลี้ยงเต่ายักษ์พันธุ์ “ ซูคาตร้า” เต่าเดือยพื้นเมืองในทวีปแอฟริกา เป็นเต่าบกที่ความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

นายประจักษ์ ฉวีวรรณกร วัย 61 ปี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลพรหมบุรี ใช้พื้นที่ข้างบ้านพัก ทำเป็นบ่อเพาะเลี้ยงเต่ายักษ์พันธุ์ “ ซูคาตร้า” เต่าเดือยพื้นเมืองในทวีปแอฟริกา เป็นเต่าบกที่ความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เต่าชนิดนี้จะพบได้ที่ทะเลทรายซาราและแอฟริกาตะวันกตและตะวันออก ขาดเมื่อโตเต็มที่ยาวได้มากกว่า 36 นิ้ว น้ำหนักหว่า 105 กิโลกรัมมีอายุยาวกว่า 100 ปี ซื้อพ่อพันธ์แม่พันธุ์มาเลี้ยงสร้างรายได้ตลอดปีอดีตนายกฯ นำเต่าซูคาตร้ามาเพาะเลี้ยง โดยครั้งลงทุนครั้งแรกซื้อพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ขนาดความยาวของกระดองที่ 18 นิ้ว มาในราคาคู่ละ 80,000 บาท และในปีต่อมาแม่เต่าก็วางไข่ โดยการขุดหลุมเองตามธรรมชาติ ลูกเต่าที่ได้ก็มีผู้มาติดต่อซื้อจนไม่พอจำหน่าย จึงตัดสินใจทยอยซื้อแม่พันธุ์มาเพิ่มอีก จนปัจจุบัน มีแม่พันธุ์เต่าซูคาตร้าแล้ว 10 ตัว โดยการเลี้ยงนั้น ได้ทำบ่อที่เป็นพื้นดินธรรมชาติ กั้นเป็นบ่อโดยการก่ออิฐขึ้นมาสูงประมาณ 50 เซนติเมตร จำนวน 4 บ่อ แต่ละบ่อจะปล่อยพ่อพันธุ์ 1 ตัวต่อแม่พันธุ์ 3 ตัว ให้อาหารเป็นพืชผัก ผลไม้ เช่นผักบุ้ง กวางตุ้ง หรือบางครั้งก็เป็นหญ้าขน แม่เต่าจะขุดหลุมวางไข่ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน ของทุกปี แม่เต่าหนึ่งตัวสามารถวางไข่ได้มากถึง 80-100 ฟอง แต่จะมีไข่เพียง 70-80 ฟองเท่านั้น ที่จะฟักออกมาเป็นตัว ซึ่งหลังจากวางไข่ ก็จะไปขุดเก็บเอาไข่เต่ามาฟักในตู้ฟักรักษาอุณหภูมิไว้ที่ 30 องศา เป็นเวลาประมาณ 90 วัน ลูกเต่าก็จะฟักตัวออกจากไข่ ประมาณ 1 สัปดาห์ ลูกเต่าซูคาตร้าจะมีความยาวประมาณ 2.5 นิ้ว ก็จะขายได้ในราคาตัวละ 1,200-1,500 บาท

ลักษณะกระดองที่แบนราบเมื่ออยู่ในวัยเล็กลำตัวมีสีขาวไปจนถึงสีน้ำตาลเหลืองเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นและวัยเต็มวัยสีของกระดองจะเป็นสีน้ำตาลและสีเหลือง หากตัวไหนมีลักษณะกระดองที่สวยงาม แตกต่างไปจากตัวอื่นๆ เป็นรูปดาว ไม่เรียงเป็นแถวเหมือนตัวอื่น ก็จะมีราคาสูงถึงตัวละ 5,000 บาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือรีสอร์ท ที่นำไปเลี้ยงให้ลูกค้าดูเล่นและถ่ายภาพ เอาไว้อวดกันว่าใครจะเลี้ยงได้ตัวเสริมบารมีความร่ำรวย ตามศาสตร์ความเชื่อ เพราะเต่าเลี้ยงง่ายไม่ทำร้ายใคร สามารถเลี้ยงในสนามหญ้าหน้าบ้านได้ ไม่มีเสียงรบกวน และกลิ่นมูลรบกวนทำให้เต่าซูคาตร้าเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านไว้เฝ้าบ้าน เต่ายักษ์ชนิดนี้เลี้ยงดูง่ายเป็นสัตว์แข็งแรงอึด ทนไม่ค่อยมีโรค มีเป็นหวัดบ้างในช่วงอากาศหนาวอากาศชื้นและพบเชื้อราได้บ้างในบางครั้ง การรักษาแค่เพียงนำเต่าออกไปตากแดดอาการต่างๆก็จะหายไปเอง ไม่ใช่แค่เลี้ยงง่ายแต่เต่อเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรู้จำชื่อตัวเองได้เมื่อไหร่ที่เจ้าของเรียนชื่อเค้าจะรู้ชื่อของตัวเองเดินมหาหาเจ้าของ เป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องมีความน่ารักขี้อ้อนไม่ต่างจากสุนัขและแมวการดูแลก็ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น

ส่วนอาหารของเต่าชนิดนี้ จะกินอาหารหลักได้หลากหลาย โดยมากเป็นหญ้า รวมถึงวัชพืชและผลไม้ ชนิดต่าง ๆ รวมถึงพืช มีพฤติกรรมที่แตกต่างไปกว่าเต่าบกชนิดอื่น ๆ คือ เดินเก่งและเดินได้เร็ว สามารถเดินหาอาหารกินได้วันละหลายชั่วโมง เมื่อสู่วัยเจริญพันธุ์เต่าตัวผู้เมื่ออายุประมาณ 5 ปี หรือความยาวประมาณ 15 นิ้ว ส่วนตัวเมียจะเข้าวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 7 ปี หรือ ความยาวประมาณ 17 นิ้ว ลักษณะของเต่าตัวผู้มีโคนหางที่ยาวกว่าตัวเมีย และมีกระดองก้นเป็นรูปตัววี และกระดองใต้ท้องมีลักษณะโค้งเว้าเข้าไปด้านในการผสมพันธุ์จะมีในช่วงฤดูร้อน จนถึงปลายฤดูฝน เต่าตัวเมียจะวางไข่หลังผสมพันธุ์แล้ว 1 เดือน โดยใช้ขาหลังขุดหลุม ซึ่งอาจมีหลายหลุมเพื่อหลอกสัตว์กินเนื้อชนิดอื่นที่จะมาขโมยไข่ วางไข่ครั้งละ 20-30 ฟอง โดยในแต่ละปีอาจวางไข่ได้ 4-5 ครั้ง และมักจะวางไข่ในช่วงเวลาบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ไข่ใช้เวลาฟักเป็นตัวประมาณ 90 วัน ในอุณหภูมิประมาณ 29-31 องศาเซลเซียส ในท้องตลาดราคาเต่าซูลคาต้า มีราคาแตกต่างกันออกไป ตามลวดลาย ถ้าลวดลายกระดองเต่าไปตรงกับศาสตร์ความเชื่อของคนจีน ราคาสูงมากไปจนหลักหมื่น หลายหมื่นบาท จนแตะหลักแสนบาท มีพ่อค้าตลาดนัดจตุจักรมารับซื้อถึงที่