'สุวัจน์' ชู นโยบายประชาชนมีส่วนร่วมประมูลโครงการรัฐ แก้ 'คอร์รัปชั่น'
"สุวัจน์" ย้ำ นโยบายดึงนักท่องเที่ยว หัวใจหลักฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ใช้จุดแข็งซอฟต์พาวเวอร์ "อาหาร-ต้อนรับ" ดึงนักท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศ 40 ล้านคน ระบุ หากหวังภาคอุตสาหกรรมลงทุนเห็นผลช้า เสนอรัฐบาลให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการประมูลโครงการ แก้ปัญหาคอร์รัปชั่น
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวเสวนาเรื่อง "วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย" ในงานประชุมสามัญประจำปี 2566 ภายใต้ธีมงาน "EMPOWERING THAI INDUSTRIES FOR POWERFUL THAILAND เสริมสร้างพลังอุตสาหกรรมไทย สู่ประเทศไทยที่แข็งแกร่ง" ว่า ในปีค.ศ. 2000 เศรษฐกิจไทยโต 3.5% และเมื่อเกิดโควิดติดลบ ปีนี้อาจโต 3% ซึ่งการฟิ้นฟูเศรษฐกิจประเทศต้องกลับไปที่ 4-5% ดังนั้น จากปัญหาเงินฟื้อ น้ำมันแพง เศรษฐกิจถดถอย ภาวะโลกร้อน นโยบายบีซีจีที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องคิดหนัก
ทั้งนี้ การฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยหวังจากการลงทุนของนักลงทุนอาจต้องชะลอ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องนำจุดแข็งที่มี คือ การท่องเที่ยว โดยก่อนเกิดโควิดยอดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศที่ 40 ล้านคน และตอนนี้กลับมาที่ 25 ล้านคน บ่งบอกว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น การท่องเที่ยวเป็นจุดแข็งประเทศ ที่ไม่ต้องการความเชื่อมั่น เงินเฟ้อ หรือนโยบายบีซีจี ซึ่งการจะดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศที่ดึงดูดได้อย่างเดียวคือ อาหารอร่อยหรือไม่ และการต้อนรับดีหรือไม่ ดังนั้น การท่องเที่ยวแก้ปัญหาได้หมด ลดความเหลื่อมล้ำไปถึงทุกพื้นที่ อาศัยการลงทุนอาจช้า
ดังนั้น การเพิ่มนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์ ใช้ซอฟต์พาวเวอร์มาใช้ สิ่งที่ลองจากภาคท่องเที่ยว คือส่งออก โดยการหาตลาดใหม่ อีกปัจจัยลองลงมา คือชาตินิยม การดึงลงทุนในไทย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และการปรับฐานเศษฐกิจประเทศ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมภาคการเกษตร จะต้องใส่เทคโนโลยี นวัตกรรม หากไล่เรียงในทุกภาคส่วนจะทำให้เศรษฐกิจโตแน่นอน ไม่มีใครแข่งกับไทยได้
"แต่ก่อนผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) โต 10% ถึง 3 ปีซ้อน ดังนั้น สำคัญสุดคือเทคโนโลยีที่เราส่งออกต่ำ แต่นำเข้าสูง ซึ่งเราใช้ในภาคอุตสาหกรรมน้อย ต้องรีสกิลแรงงานโดยนำเทคโนโลบีมาใช้ ส่วนนโยบายบีซีจี เป็นเรื่องใหม่ ภาคอุคสาหกรรมต้องทำความเข้าใจ และเป็นฐานใหม่ เราจึงเสนอนโยบายเศรษฐกิจใหม่ คือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง"
นอกจากนี้ การปฎิรูปกฏหมายเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญของฝ่ายบริหารสร้างสิ่งแวดล้อม สังคม บริบทโลก การค้าเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครื่องมือต้องยืดหยุ่นเพื่อให้ทันต่อบริบทที่เปลี่ยนแปลง รัฐธรรมนูญก็ต้องแก้ไขเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง เอื้อการลงทุน การขอใบอนุญาตโดยใช้ระบบออนไลน์ 1 คำขอต่อ 1 ออนไลน์ จะไม่เจอเรื่องทุจริต และการให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ เช้น การประมูลงานตั้งแต่คิดโครงการ เขียน TOR เลือกผู้รับเหมา การประมูล จัดซื้อจัดจ้าง จะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นได้