‘วิษณุ’ปิดทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่เข้า ครม.ลุ้นใหม่รัฐบาลหน้า

ศาลปกครองสูงสุดมีกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาวันที่ 30 มี.ค.2566 ในคดีที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มครั้งที่ 1 กรณีมีมติในคราวการประชุมเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2564 ที่เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 3 ก.ค.2563 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าว

คดีนี้ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 พิพากษาให้การเพิกถอนมติยกเลิกการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ของคณะกรรมการมาตรา 36 และคำสั่งยกเลิกการประกวดราคาของผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟม.) อเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในวันที่ 30 มี.ค.2566 ว่า ในประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้มคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการคงไม่สามารถพูดคุยเรื่องนี้ได้ ไม่ว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำตัดสินออกมาว่าอย่างไร

เมื่อถามว่าต้องรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ถ้าจะพูดอะไรคงพูดไปตั้งแต่คราวก่อนแล้ว เพราะคราวที่แล้วตนได้เสนอครม.ว่าถ้าจะอนุมัติอะไรก็ทำให้เสร็จ แต่ไม่ให้มีการลงนาม รอให้ศาลตัดสินออกมาแล้วค่อยมาดูกันว่าจะทำอย่างไร แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีบอกว่าให้ถอยออกมาเลยก็จบ แปลว่าจะไม่นำกลับมาพิจารณาอีกในรัฐบาลนี้

“อนุทิน”รอดูคำพิพากษา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า ครม.รักษาการสามารถหารือกันเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มหรือไม่ โดยในเรื่องนี้ต้องถามนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

“คงต้องขอดูคำพิพากษาก่อน ยังไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหน เรื่องนี้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งตอนนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการอยู่ ถ้ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอเข้ามาให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคมก็ต้องนำเสนอเข้าที่ระชุม ครม." 

ส่วน ครม.จะมีมติอย่างไรก็เป็นเรื่อง ครม. แต่กรณีนี้ต้องไปเช็คดูว่าก่อนหน้านี้ในการประชุม ครม.ครั้งที่แล้วเหมือนจะพูดว่าเอาไว้รัฐบาลหน้าก็แล้วกัน ซึ่งถ้าเป็นไปตามนั้นก็คงไม่มีการเสนอเข้าในช่วงรัฐบาลรักษาการ ซึ่งครั้งที่แล้วที่ทุกคนไม่ยื้อไว้ก็เพราะว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นมา และ ครม.ก็ต้องฟังถ้าอย่างนั้นก็เหมือนหลังพิงก็ให้ปลอดภัยไว้ก่อน

คดีสายสีส้มค้างในศาล3คดี

ทั้งนี้ มีคดีที่ฟ้องร้องอยู่ในศาล จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย

1.คดีที่ศาลปกครองสูงสุด BTSC ฟ้องการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนฯ ไม่ชอบ ซึ่งคดีนี้อ่านคำพิพากษาในวันที่ 30 มี.ค.2566 โดยตุลาการผู้แถลงคดี ศาลปกครองสูงสุดแถลงว่า การยกเลิกการคัดเลือกเอกชนฯ ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว เห็นควรพิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ปัจจุบันรอรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

2.คดีศาลอาญาทุจริตและประพฤติ มิชอบกลางที่ กลุ่ม BTSC ฟ้องการแก้เอกชนการประมูล (RFP) และยกเลิกการคัดเลือกฯ โดยทุจริต ซึ่งความคืบหน้าของคดีนี้ คือ ศาลอาญาฯ พิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่า การแก้ไข RFP เป็นไปเพื่อประโยชน์ของรัฐ ไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอรายใด

นอกจากนี้การยกเลิกการคัดเลือกฯ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง BTSC หรือกระทำนอกขอบเขตของกฎหมาย ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และคดีนี้อยู่ระหว่าง BTSC ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คำพิพากษา

3.อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองกลาง กรณีที่ BTSC ฟ้องการคัดเลือกเอกชนฯ ครั้งใหม่ไม่ชอบ เพราะ RFP กีดกัน BTSC ซึ่งความคืบหน้าของคดี อยู่ระหว่างการขอทุเลาฯ ครั้งที่ 1

รวมทั้งศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอทุเลาการบังคับเนื่องจากเห็นว่า ประกาศเชิญชวนฯ และ RFP เป็นไปตามกฎหมายแล้ว RFP เปิดกว้างมากขึ้น ไม่มีลักษณะ เป็นการตัดสิทธิหรือกีดกัน BTSC นอกจากนั้นยังมีการขอทุเลาฯ ครั้งที่ 2 แต่ศาลไม่รับคำร้องขอทุเลาของ BTSC