บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อัปเดตล่าสุด คลังเผยยอดใช้สิทธิ 5 วัน 2.6 พันล้านบาท
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อัปเดตล่าสุด คลังเผยยอดใช้จ่ายโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 หรือ บัตรคนจน จากผู้มีสิทธิฯ 8.67 ล้านราย 5 วัน 2.6 พันล้านบาท
ความคืบหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 หรือ บัตรคนจน ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตาม โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 (ผู้มีสิทธิฯ) ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของ ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 2,644.60 ล้านบาทจากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 8.67 ล้านราย
โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด และวงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการเริ่มใช้สิทธิ พบว่า ผู้มีสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน บางส่วนที่ยืนยันตัวตนที่
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สำเร็จแล้ว
เมื่อไปใช้สิทธิที่ร้านธงฟ้าฯ พบว่า ไม่สามารถจำรหัสส่วนบุคคล (Personal Identification Number: PIN) หรือต้องการเปลี่ยนแปลงรหัส PIN ที่เคยกำหนดไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งในกรณีดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผู้มีสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
1. กรณีต้องการเปลี่ยนรหัส PIN ใหม่
สามารถดำเนินการได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยรหัส PIN ใหม่จะต้องไม่ซ้ำกับรหัส PIN เดิมที่เคยกำหนด 10 ครั้ง ย้อนหลัง และต้องทำการยืนยันตัวตนทุกครั้งที่เปลี่ยนรหัส PIN ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิได้หลังจากกำหนดรหัส PIN ใหม่ ประมาณ 2 ชั่วโมง
2. กรณีกดรหัส PIN
ตามที่เคยกำหนดไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตนไม่ถูกต้อง จำนวน 3 ครั้ง จะถูกระงับการใช้งาน (สำหรับสิทธิสวัสดิการที่ต้องใส่รหัส PIN) ซึ่งผู้มีสิทธิฯ สามารถติดต่อขอทำการยืนยันตัวตนกำหนดรหัส PIN ใหม่ โดยต้องดำเนินการตามข้อ 1
3. กรณีที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว แต่มีการเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน
เนื่องจากบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ หรือสูญหาย จะต้องอายัดสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐด้วยตนเองผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ กับศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Call Center) หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยฯ ตามวันและเวลาทำการของสาขาของธนาคารกรุงไทยฯ ในวันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 - 17.30 น. โดยผู้มีสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ไปติดต่อขอทำการยืนยันตัวตนเพื่อกำหนดรหัส PIN ใหม่ โดยต้องดำเนินการตามข้อ 1
- ผู้ผ่านเกณฑ์
สำหรับความคืบหน้าของผู้ที่ผ่านเกณฑ์ตามโครงการฯ ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. พบว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 12,978,844 ราย (ร้อยละ 88.91 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย) และจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,228,976 ราย
- ผู้ผ่านเกณฑ์ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566
ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้ตามวันเวลาที่ธนาคารกำหนด และสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด
ซึ่งในการยืนยันตัวตนผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการ หากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต
- ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ
เนื่องจากการตรวจสอบสถานะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ผ่านซึ่งในกรณีนี้ขอให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และหากตรวจสอบและแก้ไขสถานะบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว ให้ดำเนินการยืนยันตัวตนอีกครั้ง
นอกจากนี้ การยืนยันตัวตนไม่สำเร็จอาจเกิดจากกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน ซึ่งผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่านขอให้ติดต่อธนาคารกรุงไทยฯเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนของธนาคารกรุงไทยฯ ต่อไป
- ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ
ขอให้รีบดำเนินการยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้
1. ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th (คลิกที่นี่) หรือ https:// welfare.mof.go.th (คลิกที่นี่) ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ
2. ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยฯ ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์
ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติได้ทำการยื่นขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ขอให้ไปติดต่อเพื่อขอตรวจสอบ และหรือขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้องได้ที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (คลิกที่นี่) หรือที่เว็บไซต์ welfare.mof (คลิกที่นี่)
สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 09 4858 9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ โทร. 08 5842 7102 , 08 5842 7103, 08 5842 7104 ,08 5842 7105, 08 5842 7106, 08 5842 7107 08 5842 7109 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02 109 2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)