พปชร. เปิดตัว ‘ดรีมทีมเศรษฐกิจ’ รวมกูรูเศรษฐกิจระดับมือพระกาฬ

พปชร. เปิดตัว ‘ดรีมทีมเศรษฐกิจ’ รวมกูรูเศรษฐกิจระดับมือพระกาฬ

พปชร.เปิดโฉมหน้า “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” - แหล่งรวม “กูรูเศรษฐกิจระดับมือพระกาฬ” ประกาศความพร้อมเดินหน้าบริหารประเทศทันทีแบบไร้รอยต่อ ย้ำจับตา “ยุทธศาสตร์ใหม่” ไม่แพ้พรรคการเมืองใด

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเป็นอย่างมาก มุ่งหวังจะแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ โดยออกมาย้ำถึง “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีทั้งที่เป็นรัฐมนตรีในปัจจุบัน อดีตรัฐมนตรี และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ประกอบด้วย

  • นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง
  • นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลังและอดีต รมว.อุตสาหกรรม
  • นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง
  • นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน
  • นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์
  • นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง
  • นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตผู้ช่วย รมว.คลัง
  • ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน
  • และตนที่เป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง

นายชาญกฤช กล่าวต่อว่า การรวมตัวกันของ “มือบริหารระดับอาชีพ” ไม่ใช่เรื่องง่าย หากแต่เกิดจากบารมีของ พล.อ.ประวิตร ทั้งสิ้น เพราะเป็นการดึงเอามือเศรษฐกิจระดับประเทศ ล้วนเป็นผู้ที่มากความสามารถ มากประสบการณ์ เป็นที่รู้จักในฝีไม้ลายมือเป็นอย่างดีในแวดวงเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนต่างประเทศ ซึ่งให้การยอมรับว่าเป็นตัวจริงเรื่องเศรษฐกิจทุกระดับมาร่วมกันทำงาน ประกาศนโยบายเศรษฐกิจพลิกโฉมประเทศไทย 360 องศา เน้นตอบโจทย์เชิงบริหารเศรษฐกิจ สามารถเดินหน้าบริหารประเทศได้ทันที โดยไม่สะดุด หรือเกิดรอยต่อระหว่างเปลี่ยนผ่านรัฐบาล แม้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังผันผวนก็ตาม เพราะทีมเศรษฐกิจพลังประชารัฐ เป็นบุคลากรที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในสนามเศรษฐกิจจริงมาแล้ว โดยมีผลงานในอดีตเป็นที่ประจักษ์ พร้อมย้ำว่า เร็วๆ นี้พรรคพลังประชารัฐเตรียมจะเปิดตัวยุทธศาสตร์การเลือกตั้งล็อตใหญ่ ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์ที่ไม่แพ้พรรคการเมืองใดอย่างแน่นอน พร้อมฝากประชาชนพิจารณาเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 และเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกเขตทั่วทั้งประเทศ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง และพลิกฟื้นเศรษฐกิจ พลิกโฉมประเทศไทย เพื่อก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน