ผงะ!! พบหมูเถื่อน 4 ล้าน กก. ในตู้ตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง

ผงะ!! พบหมูเถื่อน 4 ล้าน กก. ในตู้ตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง

เกษตรกร จี้ตั้ง “คณะทำงานร่วมรัฐ-เกษตรกร” หลังพบหมูเถื่อนซุกตู้ตกค้างท่าเรือแหลมฉบังกว่า 4 ล้านกก. เครียดจัด อำนาจกรมศุลฯทำได้แค่ยึด ดำเนินคดีไม่ได้

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทุกภาคทั่วประเทศและผู้แทนกลุ่มเกษตรกร เข้ารับฟังมาตรการป้องกันหมูเถื่อนของกรมศุลกากร ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ว่า จากการเปิดตู็ตกค้าง 189 ตู้ พบว่า เป็นหมูเถื่อนถึง 140 ตู้ ปริมาณราว 4 ล้านกิโลกรัม (กก.) ถือว่าเป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ และคิดว่าเป็นสาเหตุหลักของการระบาดทั่วประเทศไทยในขณะนี้ โดยเป็น ทั้งเนื้อและชิ้นส่วน  ดังนั้นทางเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูจึง รวมตัวเรียกร้องตั้ง “คณะทำงานร่วมรัฐ-เกษตรกร” แก้ปัญหาด่วน   

 

   ผงะ!! พบหมูเถื่อน 4 ล้าน กก. ในตู้ตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง ผงะ!! พบหมูเถื่อน 4 ล้าน กก. ในตู้ตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง ผงะ!! พบหมูเถื่อน 4 ล้าน กก. ในตู้ตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง

ตัวเลขหมูเถื่อนที่ตรวจพบในตู้มีจำนวนมากขนาดนี้ ส่วนที่เล็ดลอดออกสู่ท้องตลาดนั้นย่อมมากมายกว่านี้มาก จึงส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อราคาหมู ทำให้เกษตรกรไทยต้องเดือดร้อนและเข้าสู่ภาวะขาดทุน ทำไมภาครัฐจึงไม่สามารถจัดการปัญหาหมูเถื่อนให้เด็ดขาดได้ ยิ่งได้มาเห็นมาตรการต่างๆที่กรมศุลฯอธิบาย ยิ่งเข้าใจว่าถ้าทำได้ตามนี้จริงๆ ไม่มีทางเลยที่ของผิดกฏหมายจะเข้ามาได้ขนาดนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยและน่ากังวลมาก” นายสุรชัยกล่าว 

  

ทั้งนี้การตั้ง “คณะทำงานร่วมรัฐ-เกษตรกร” โดยมีกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานภาครัฐอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูล บริหารจัดการ และทำงานร่วมกันในการสกัดช่องทางการนำเข้า เป็นการจัดการปัญหาหมูเถื่อนก่อนเข้าสู่ประเทศไทยให้ได้ผลที่สุด

ทั้งนี้เพื่อรักษาอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูให้คงอยู่ สร้างความมั่นคงทางอาหารให้คนไทย เพราะหากหมูเถื่อนยังสามารถลักลอบผ่านช่องทางท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นด่านใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นจำนวนมหาศาลอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมายเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ย่อมไม่เป็นผลดีกับเกษตรกรและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างยิ่ง  

  

ด้าน ผู้บริหารส่วนบริการศุลกากร กรมศุลกากร ให้รายละเอียดว่า กรมศุลฯ ทำหน้าที่ป้องกันสินค้าผิดกฏหมาย ไม่ให้เข้ามาในอาณาเขตประเทศไทย โดยมีขั้นตอนและกระบวนการนำเข้า-ส่งออกดังที่ได้อธิบายให้คณะได้รับทราบ ยืนยันว่าระบบตรวจสอบ เข้มงวด มีความรัดกุม

อย่างไรก็ตาม แม้กรมศุลกากรจะทราบชื่อของชิปปิ้งหรือผู้นำเข้าตามที่ระบุในเอกสาร แต่ในขั้นตอนกฏหมาย กรมมีหน้าที่เพียงยึดสินค้าผิดกฏหมายไว้เท่านั้น ไม่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินคดีใดๆ และสำหรับของกลางหมูเถื่อน 4 ล้านกิโลกรัมที่อยู่ในตู้ตกค้างนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนของการส่งมอบให้กรมปศุสัตว์รับไปทำลายต่อ นอกจากนี้จะเร่งนำข้อเสนอตั้ง “คณะทำงานร่วมรัฐ-เกษตรกร” ต่อท่านอธิบดีทันที ด้วยมีความเข้าใจในผลกระทบที่เกิดกับเกษตรกร ตลอดจนอุตสาหกรรมสุกรของประเทศ 

สำหรัยบ ปัญหาการลักลอบนำเข้าสุกรผิดกฏหมายเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งปี เป็นหมูแช่แข็งจากประเทศแถบอเมริกาใต้ที่อนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงได้เสรี รวมถึงเป็นหมูจากประเทศแถบยุโรปที่กำลังเกิดโรคระบาด ASF ลักลอบนำเข้าโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ไม่มีการตรวจสอบสารปนเปื้อนตกค้าง และไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทางอาหารสำหรับผู้บริโภคไทย

การระบาดของหมูเถื่อนจำนวนมหาศาลยังเป็นการเบียดเบียนตลาดสุกรในประเทศ บิดเบือนกลไกตลาด และทำให้เกษตรกรไทยถูกกดราคาหมูหน้าฟาร์ม นำไปสู่ภาวะขาดทุนและอาจต้องเลิกอาชีพในที่สุด