เตรียมจ่ายเพิ่ม! จ่อขึ้นค่าน้ำประปา หลังแบกต้นทุนสูง
เตรียมจ่ายเพิ่ม! การประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จ่อขึ้นค่าน้ำประปา หลังแบกต้นทุนสูง จากผลกระทบค่าไฟแพง
คนไทยเตรียมจ่ายเพิ่มอีกหลังจากที่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น ตามค่าเอฟที (ค่า FT) ที่ปรับขึ้น ล่าสุด การประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กำลังศึกษาโครงสร้าง ค่าน้ำประปาใหม่ โดย การประปานครหลวง ให้เหตุผลว่าไม่ได้ขึ้นค่าน้ำมา 23 ปี ส่วนการประปาส่วนภูมิภาคเอง ก็บอกว่าไม่ได้ขึ้นมากว่า 10 ปีแล้ว และต้นทุนก็สูงขึ้นมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- "ลงทะเบียนลดค่าไฟ" ค่าน้ำรับสิทธิ์ 1 ปี กระทรวงการคลัง อัปเดตล่าสุด
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อัปเดตสิทธิลงทะเบียนค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา (4 เม.ย.66)
นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กปน.ได้รับผลกระทบจากต้นทุนหลังการผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก ประกอบด้วย
ต้นทุนค่าน้ำประปาที่เพิ่มขึ้น
- ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รัฐบาลเรียกเก็บที่ราชพัสดุ กปน.ต้องเสีย 150 ล้านต่อปี จากเดิมไม่ต้องเสีย
- ค่าน้ำดิบ จ่ายให้กับกรมชลประทานวันละ 3 ล้านบาท
- ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 20-30% หรือประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน จากค่าเอฟที (ค่า FT) ของรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2566 ปรับขึ้นกว่า 90 สตางค์
- ค่าธรรมเนียมการวางท่อ เป็น 100 ล้านบาทต่อปี และยังมีการใช้เงินลงทุนเพื่อขยายการผลิตไปกว่า 42000 ล้านบาท ดังนั้นการขึ้นค่าน้ำ จะช่วยบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อีกทาง
ด้านนายมงคล วัลยะเสวี รองผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า ตอนนี้ กปภ.อยู่ระหว่างศึกษาโครงสร้างค่าน้ำใหม่ ตามต้นทุนเพิ่มขึ้น 15-20% ทั้งจากค่าไฟ ค่าสารเคมี เพื่อขอขึ้นค่าน้ำ หลังไม่ได้ขึ้นมากว่า 10 ปี อีก 2 เดือนจะแล้วเสร็จ จากนั้นเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาว่าจะให้ปรับขึ้นหรือไม่ หรือจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป การปรับขึ้นค่าน้ำเคยขอกับกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่ไม่ได้รับอนุมัติ และขอให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายแทน
ทั้งนี้ จากภาระค่าไฟฟ้าสูงขึ้น และค่าเอฟที ยังอยู่ในอัตราสูง ส่งผลต่อธุรกิจทุกภาคส่วน บางส่วนได้ปรับตัวรับสถานการณ์ พร้อมกับมีข้อเสนอให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้โอกาสนี้แก้ไขระยะสั้น และปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในอนาคต