พาณิชย์ เปิดตลาดสินค้าเทรนด์โลก เสริมเศรษฐกิจฐานราก
พาณิชย์ ขนทัพสินค้ากลุ่ม BCG สินค้าอัตลักษณ์ และสินค้านวัตกรรมมาจัดแสดงในงาน Local BCG+ Fair 2023 ดีเดย์ภาคเหนือ 28 เม.ย.-1 พ.ค.นี้ ที่เชียงใหม่ ก่อนลงใต้ ไปอีสาน ภาคกลางและตะวันออก และปิดท้ายจัดใหญ่ที่กรุงเทพฯในงาน Thailand Local BCG+ Expo 2023 ช่วงเดือนส.ค.2566
โครงการ Local+ (Plus) (โลคัล พลัส) ของกระทรวงพาณิชย์ ที่มีเป้าหมายมุ่งขับเคลื่อนสินค้าใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม BCG กลุ่มอัตลักษณ์ และกลุ่มนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เนื่องจาก ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการบริโภคอาหารแบบเดิมที่พึ่งพิงการใช้สารเคมีค่อนข้างมาก และผู้นำเข้ามีมาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด ผู้บริโภคมีความใส่ใจในการเลือกซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ทำให้เกิดกระแสรักษ์สุขภาพ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคสินค้า BCG สินค้าอัตลักษณ์ และนวัตกรรม ขยายตัวมากขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ
โครงการดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 66 ตั้งงบประมาณไว้ 38 ล้านบาท มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลล์แมนจังหวัด ที่ประจำอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไปลงพื้นที่ ทำการคัดของดี ของเด็ด สินค้าที่มีศักยภาพ ทั้งกลุ่ม BCG กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ และกลุ่มที่มีนวัตกรรม เพื่อทำเป็นฐานข้อมูลสินค้า Local+ แล้วเข้าไปช่วยส่งเสริม ทั้งด้านการผลิต การพัฒนาตัวสินค้า ดีไซน์ สร้างเรื่องราว เพื่อให้มีคุณลักษณะพิเศษ มีคุณค่าต่อจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการรักสิ่งแวดล้อม รักษ์โลก การช่วยสืบทอดวัฒนธรรม เพื่อช่วยผู้บริโภครู้จักสินค้า Local+ สามารถขยายตลาด รวมทั้งเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการคัดเลือกสินค้า จากทั่วประเทศเสร็จเรียบแล้ว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จึงได้จัด”เวที”เพื่อนำสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม โดยได้จัดงานภายใต้ชื่อ “งาน Local BCG+ Fair 2023” ใน 4 ภูมิภาค นำสินค้ากลุ่ม BCG สินค้าอัตลักษณ์ และสินค้านวัตกรรม มาจัดแสดงให้ประชาชนได้เลือกชม เลือกซื้อสินค้าดังกล่าว โดยกำหนดนำมาจัดแสดงแยกเป็นรายภูมิภาค เริ่มในภาคเหนือช่วงปลายเดือนเม.ย.2566 เป็นภาคแรก และจะจัดต่อในภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ ในงาน Thailand Local BCG+ Expo 2023 ช่วงเดือนส.ค.2566 ซึ่งจะเป็นงานใหญ่ที่รวบรวมสินค้าของดี เด่น ดัง จากทุกภูมิภาคมาจัดแสดง
“กีรติ รัชโน” ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สินค้า Local+ ที่นำไปจัดแสดงในแต่ละภูมิภาค จะเป็นของดี เด่น ดัง ในแต่ละจังหวัดที่อยู่ในภาคนั้น ๆ และเป็นสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ไปทำการคัดเลือกมา ซึ่งกำหนดไว้ใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม BCG เป็นกลุ่มสินค้าที่เน้นการผลิตโดยมุ่งรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ปกป้องสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพ สินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้าออร์แกนิก
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มอัตลักษณ์ เป็นกลุ่มสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น มีความเป็นอัตลักษณ์ และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มนวัตกรรม เป็นกลุ่มที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปผลิตสินค้า ทำให้สินค้ามีความแตกต่าง โดยแต่ละภูมิภาค ได้คัดเลือกมาจัดแสดงในงาน Local BCG+ Fair 2023 ภูมิภาคละ 50 สินค้า และจะปิดท้ายที่กรุงเทพฯ รวมทั้งหมด 200 สินค้า
ล่าสุด "กีรติ รัชโน" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคิกออฟ เปิดงาน Northern Thailand Local BCG Plus Fair 2023 ที่ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เม.ย.-1 พ.ค.2566 โดยในการจัดงานครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้คัดเลือกสินค้าชุมชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ทั้งสินค้าในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในชีวิตประจำวัน จำนวน 50 รายการ มาจัดแสดงและจำหน่าย และยังได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ ทั้งแบบออฟไลน์ และออกไลน์ ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่าย โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อสินค้าภายในงานและการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับกำหนดการจัดงาน Local BCG Plus Fair 2023 ภาคเหนือ วันที่ 28 เม.ย.-1 พ.ค.2566 ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ภาคใต้ วันที่ 10-14 พ.ค.2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 หน้าร้าน H&M ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ สงขลา ภาคตะวันออกฉียงเหนือ วันที่ 18-22 พ.ค.2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 (หน้า CPS) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น
ภาคกลางและภาคตะวันออก วันที่ 14-18 มิ.ย.2566 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 หน้า H&M ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบางนา กรุงเทพมหานคร และที่กรุงเทพฯ ที่ งาน Thailand Local BCG+ Expo 2023 ช่วงเดือนส.ค.2566 จัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“การขับเคลื่อนโครงการนี้ กระทรวงพาณิชย์ต้องการให้คนทั้งประเทศรับรู้ว่าทุกภูมิภาคของไทย มีสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการของตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การปกป้องสิ่งแวดล้อม สินค้าที่มีอัตลักษณ์ สินค้าที่มีนวัตกรรม ซึ่งไทยสามารถผลิตสินค้าเหล่านี้ได้หมด และต้องการผลักดันให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญ และหันมาบริโภคสินค้าในกลุ่มเหล่านี้กันมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนผู้ผลิต และกระทรวงพาณิชย์ ไม่เพียงแต่ช่วยทำตลาดในประเทศ แต่จะช่วยผลักดันให้มีการเปิดตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งจะช่วยนำรายได้เข้าประเทศ และช่วยเพิ่มยอดการส่งออกของประเทศต่อไป” นายกีรติกล่าว
ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าเพื่อส่งเสริมสินค้าท้องถิ่น โชว์ความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่น ปรับแต่ง ดีไซน์ให้มีความทันสมัยแต่ยึดกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเข้ากับเทรนด์ของโลกในยุคนี้