กนอ. โรดโชว์เกาหลีใต้ ดึงลงทุนนิคมฯ EEC

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (กนอ.) เปิดเผยว่า การร่วมเดินทางไปโรดโชว์ที่สาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระหว่างวันที่ 15-18 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยในวันแรกมีการร่วมกิจกรรมสัมมนาการลงทุน ภายใต้หัวข้อ “Thailand Investment Promotion Strategy: NEW Economy NEW Opportunities” และได้พบปะหารือกับบริษัทกลุ่มเป้าหมายกว่า 40 บริษัท และมีการประชุมรายย่อย (One on One Meeting) กับกลุ่มเป้าหมายเป็นรายบริษัท

ทั้งนี้ หลังจากที่พบปะรายบริษัท พบว่ามีนักลงทุน 4 รายที่สนใจลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมแถบอีอีซีและบริเวณใกล้เคียง ประกอบด้วย 1.นักลงทุนจากกลุ่มผู้ประกอบกิจการผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 2.นักลงทุนจากกลุ่มผู้ประกอบกิจการผลิตที่เคลือบกระจกรถยนต์แบบพิเศษกันฝ้า 3.นักลงทุนจากกลุ่มผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์(Medical Hub) และเทคโนโลยีที่ใช้เกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดเครื่อง X-ray เป็นต้น และ 4. นักลงทุนจากกลุ่มผู้ประกอบกิจการผลิตอะไหล่ยานยนต์ ทั้งนี้ คาดว่าเงินลงทุนทั้งหมดจาก 4 บริษัทที่สนใจลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมนั้น ประมาณ 2,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนอีก 1 ราย ที่สนใจร่วมลงทุนกับ กนอ. ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพลังงานทางเลือก มูลค่าการลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท

สำหรับกิจกรรมความร่วมมือแบบกลุ่ม (Roundtable) กับ นายปาร์ค แจ ฮง ประธานสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเกาหลีใต้ ซึ่งมีนักลงทุนเกาหลีเข้าร่วมกิจกรรม 25 บริษัท พบว่านักลงทุนเกาหลีมีประเด็นข้อสงสัย อาทิ 1.ความต้องการสิทธิประโยชน์ในการนำเข้าและผลิตรถประเภทรถโดยสารไฟฟ้า (EV BUS) และรถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) ในประเทศไทย 2.ความต้องการสิทธิประโยชน์หรือการลดราคาในการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทย 3.ความต้องการให้รัฐบาลไทยสนับสนุนและช่วยเหลือในเรื่องการลดราคาการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทย เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีมีการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือในธุรกิจนี้เป็นอย่างมาก และ 4.ต้องการให้ กนอ. และ บีโอไอ จัดกิจกรรมพานักลงทุนเกาหลีศึกษาดูงานโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศไทย เพื่อพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศไทยต่อไป

“ทั้งนี้ กนอ. ได้รับฟังความคิดเห็น และให้ข้อมูลสิทธิประโยชน์การลงทุนในพื้นที่นิมคมฯ และเป้าหมายของไทยในการสร้างระบบห่วงโซ่อุปทาน กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านธุรกิจของประเทศไทย”