ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม JETCO พ.ย.นี้ ติดตามความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ
‘ไทย-ยูเค’ หารือเตรียมการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ พ.ย.นี้ เร่งติดตามความคืบหน้าความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เดินหน้าต่อยอดความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมหารือกับนายรอน ยิป (Mr. Ron Yip) รองอธิบดีกรมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบทวิภาคี กระทรวงธุรกิจและการค้าสหราชอาณาจักร (Deputy Director, Indo-Pacific, Bilateral Trade Relations, Department for Business and Trade) ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (ยูเค) เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยการประชุมครั้งนี้ ได้หารือถึงการเตรียมจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (Joint Economic and Trade Committee: JETCO) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพ.ย.นี้
โดยมีวาระสำคัญ คือ การติดตามผลการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ (Enhanced Trade Partnership: ETP) โดยเฉพาะในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม สุขภาพ การศึกษา ยานยนต์ การเกษตร และดิจิทัล ซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาจัดทำ FTA ระหว่างไทยและยูเคในอนาคต
นางอรมน กล่าวว่า หลังจากยูเคออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ในปี 2563 ไทยและยูเคได้กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยลงนาม MOU จัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ในปี 2564 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยเฉพาะในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน ซึ่งยูเคได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JETCO ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมิ.ย. 2565 โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางเพนนี มอร์ดอนท์ รัฐมนตรีด้านนโยบายการค้าของยูเค เป็นประธานร่วม
ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนการทำงานในระยะ 1-2 ปี เพื่อมุ่งขยายการค้า อำนวยความสะดวก และลดอุปสรรคทางการค้า ในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน อาทิ เกษตร ดิจิทัล การลงทุน ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม บริการทางการเงิน และสุขภาพ
โดยการประชุม JETCO ครั้งที่ 2 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ จะติดตามความคืบหน้าและความสำเร็จของแผนการทำงานดังกล่าว รวมทั้งจะต่อยอดไปสู่การจัดทำหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจในสาขาที่สนใจร่วมกัน
ทั้งนี้ ยูเคเป็นคู่ค้าอันดับที่ 22 ของไทย ในปี 2565 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 6,198.48 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12.25% โดยไทยส่งออกไปยูเค มูลค่า 4,035.66 ล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากยูเค มูลค่า 2,162.82 ล้านดอลลาร์ และในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.2566) การค้าระหว่างไทยกับยูเค มีมูลค่า 3,038.89 ล้านดอลลาร์
ไทยส่งออกไปยูเค มูลค่า 1,819.70 ล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากยูเค มูลค่า 1,219.20ล้านดอลลาร์สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น ไก่แปรรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา รถยนต์นั่ง เครื่องมือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นต้น
