บอร์ดแข่งขันการค้าชี้ชะตา ‘บางจาก’ ควบรวม ‘เอสโซ่’
บอร์ดแข่งขันการค้า นัดชี้ชะตา “บางจาก” ควบรวม “เอสโซ่” 14 ก.ค.นี้ คาดอนุญาตแบบมีเงื่อนไข “บางจาก” พร้อมลุยแหล่งเงินกู้เดินหน้าทำธุรกรรมซื้อหุ้น
ธุรกิจน้ำมันกำลังมีการเลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อยู่ในขั้นตอนการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (ExxonMobil) หลังจากที่ผู้ถือหุ้นบางจากเห็นชอบการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวแล้วได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) พิจารณาอนุญาต
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าได้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาการควบรวมกิจการเอสโซ่และบางจาก โดยได้เสนอผลการศึกษาให้คณะกรรมการการแข่งขันการค้าพิจารณาในวันที่ 14 ก.ค.2566 ซึ่งการพิจารณาจะต้องให้มีข้อสรุปภายในวันที่ 18 ก.ค.2566 หลังจากมีการต่อเวลาการพิจารณามาแล้ว 1 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้บางจากประเมินว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.ค.2566
นอกจากนี้ บางจากได้ประเมินว่าการควบรวมกับเอสโซ่จะทำให้ได้สินทรัพย์เพิ่มขึ้น ดังนี้
1.ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน จะมีจำนวนปั๊มรวม 2,145 แห่ง แบ่งเป็นของบางจาก 1,343 แห่ง และเอสโซ่ 802 แห่ง และเมื่อรวมกันจะทำให้มีส่วนปั๊มน้ำมัน 7.7% ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันอยู่ที่ 21.4% แบ่งเป็นบางจาก 10.9% และเอสโซ่ 10.5%
2.ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน กรณีมีการควบรวมจะทำให้มีกำลังการกลั่นรวม 297,000 บาร์เรล/วัน แบ่งเป็นเอสโซ่ 177,000 บาร์เรล/วัน และบางจาก 120,000 บาร์เรล/วัน โดยถ้าพิจารณารายบริษัทจะทำให้กลุ่มบางจากและเอสโซ่มีกำลังการผลิตขึ้นมาอันดับ 1 แต่ถ้านำกำลังการกลั่นของกลุ่ม ปตท.มารวมกัน (ไทยออยล์ , ไออาร์พีซี , จีซี) จะทำให้กลุ่มบางจากและเอสโซ่อยู่อันดับ 2
สำหรับการศึกษาของคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาการควบรวมกิจการเอสโซ่และบางจากจะพิจารณารายธุรกิจ โดยเฉพาะในธุรกิจการกลั่นที่สามารถผลิตได้หลายผลิตภัณฑ์ ซึ่งโรงกลั่นของบางจากและเอสโซ่ประกอบด้วย LPG , Motor gasoline , JET , Diesel และ Fuel Oil ส่วนโรงกลั่นของเอสโซ่จะผลิต Asphalt เพิ่มขึ้นมาด้วย
นอกจากนี้ ได้มีนำข้อมูลของการควบรวมกิจการมาพิจารณา ทั้งแผนการรวมธุรกิจและระยะเวลาดำเนินการ โครงสร้างผู้ถือหุ้น กำลังการผลิต โรงกลั่น ยอดขาย ฐานะการเงินและส่วนแบ่งการตลาด
รวมทั้งมีนำผลการควบรวมกิจการด้านพลังงานในต่างประเทศมาประกอบการพิจารณาศึกษาด้วย เช่น การควบรวมกิจการด้านพลังงานในประเทศนอร์เวย์ของบริษัท Norsk Hydro ASA ควบรวมกิจการกับธุรกิจน้ำมัน ในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีทั้งที่อนุมัติและไม่อนุมัติ หรืออนุมัติแต่มีเงื่อนไข
แหล่งข่าวจากธุรกิจน้ำมัน กล่าวว่า การควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นที่จับตาของผู้ประกอบการน้ำมัน โดยเฉพาะแผนธุรกิจของบางจากหลังจากที่ได้โรงกลั่นและปั๊มน้ำมันของเอสโซ่เพิ่มเข้ามา รวมทั้งประเมินว่าคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าจะพิจารณาให้ความเห็นชอบการควบรวมกิจการ ซึ่งการพิจารณาของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าจะรอดูผลการควบรวมต่อเศรษฐกิจ ผู้บริโภคและการแข่งขันในธุรกิจน้ำมัน โดยต้องรอดูว่าจะพิจารณาอนุญาตแบบมีเงื่อนไขหรืออนุญาตแบบไม่มีเงื่อนไข
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบางจากได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ExxonMobil เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2566 และบางจากประเมินว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขายและชำระเงินค่าหุ้นแก่ผู้ขายได้ภายในครึ่งหลังของปี 2566 โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า และเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (tender offer) ของเอสโซ่ หลังจากการทำธุรกรรมกับ ExxonMobil เสร็จสิ้น
ก่อนหน้านี้นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในขณะที่ส่วนแหล่งเงินทุน บางจากจะใช้เงินทุนทั้งแหล่งภายนอกจากสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และจากกระแสเงินสดภายในบริษัทและเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นจาก ExxonMobil เสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ExxonMobil จะยังคงดำเนินธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป
สำหรับการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว บางจากจะเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของเอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น
รวมทั้งบางจากประเมินว่าการควบรวมกิจการจะทำให้เกิดการประหยัดเชิงขนาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนของบางจาก โดยสามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่นที่เสริมกันของโรงกลั่นทั้ง 2 แห่ง
ทั้งนี้ บางจากยังคงเน้นในเรื่องของความมั่นคงด้านพลังงาน และตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เพิ่มความยั่งยืน และเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น เชื่อมั่นว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกโฉมสู่บริบทใหม่สำหรับบางจากและประเทศไทย