อัปเดตสินทรัพย์ ‘การบินไทย’ หลังเทขายหลายรายการ หนุนกระแสเงินสด

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ผลการดำเนินงาน ณ งวดไตรมาส 1 ปี 2566 พบว่าบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 41,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งมีรายได้รวม 11,181 ล้านบาท หรือ 271.2% โดยมีปัจจัยสำคัญจากการเติบโตของรายได้การขนส่งผู้โดยสารจากการกลับมาให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารเพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งบริษัทฯ และบริษัทย่อยยังมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่ส่วนใหญ่มาจากการปรับโครงสร้างหนี้ การจำหน่ายสินทรัพย์ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นรายได้รวม 2,987 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 12,523 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนหน้าขาดทุน 3,243 ล้านบาท เป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 12,514 ล้านบาท

ส่วนสินทรัพย์มีรวมจำนวน 208,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธ.ค. 2565 จำนวน 10,267 ล้านบาท (5.2%) หนี้สินรวมจำนวน 266,948 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 จำนวน 2,254 ล้านบาท (0.8%)  ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยติดลบจำนวน 58,503 ล้านบาท ติดลบลดลงจากวันที่ 31 ธ.ค. 2565 จำนวน 12,521 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี จากผลการดำเนินงานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันการบินไทยยังคงมีรายได้จากรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอย่างการขายสินทรัพย์เข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยยังคงแผนประกาศขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ทางการเงินจะดีขึ้น และมีกระแสเงินสดในมือ (แคชโฟว์) สูงถึง 42,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 5,757 ล้านบาท

โดยตามแผนฟื้นฟูกิจการ “การบินไทย” มีสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วเตรียมประกาศขาย ประกอบด้วย

สินทรัพย์ประเภทอากาศยานปลดระวาง จำนวน 12 ลำ ได้แก่

• โบอิ้ง 777 – 200 จำนวน 6 ลำ
• แอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำ

อากาศยานที่ทำการซื้อขายแล้วเสร็จรอส่งมอบ ได้แก่

• โบอิ้ง 747 – 400 จำนวน 10 ลำ
• แอร์บัส A340 จำนวน 9 ลำ

อากาศยานอยู่ระหว่างทำสัญญาซื้อขาย ได้แก่

• โบอิ้ง 777 – 300 จำนวน 6 ลำ

สินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศที่อยู่ระหว่างประกาศขาย ได้แก่

• สำนักงานขาย จังหวัดเชียงใหม่
• สำนักงานขาย จังหวัดพิษณุโลก
• สำนักงานขาย กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
• บ้านพักพนักงาน ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
• สำนักงานขาย ณ ปีนัง มาเลเซีย
• สำนักงานขาย ณ ฮ่องกง

โดยล่าสุด “การบินไทย” ได้รายงานความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการ ช่วงระหว่าง 15 มี.ค. – 14 มิ.ย. 2566 ซึ่งรายงานถึงความคืบหน้าของการขาย ให้เช่า หรือหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองอื่น พบว่ามีการขายทรัพย์สินรองอย่างต่อเนื่อง ได้แก่

เครื่องบินแบบ Boeing 747- 400 ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 6 ลำ โดยลำที่ 1 การบินไทยได้รับเงินจากการขายเครื่องบินดังกล่าวครบถ้วนแล้ว และได้ส่งมอบเครื่องบินให้แก่ผู้ซื้อแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 5 ลำ การบินไทยได้ทำสัญญาซื้อขายกับผู้ซื้อ และเรียกเก็บเงินมัดจำจำนวน 20% นอกจากนี้ยังมีการขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอีกจำนวน 3 ลำ ซึ่งจะทยอยส่งมอบจนครบในเดือน พ.ย.นี้

นอกจากนี้ ในช่วงระหว่าง 15 มี.ค. – 14 มิ.ย. 2566 ยังมีการขายเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วเพิ่มเติม จำนวน 4 เครื่องยนต์ โดยการบินไทยได้รับเงินมัดจำจำนวน 20% และยังมีการขายหุ้นใน บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด จำนวน 1,868 หุ้น ซึ่งการบินไทยได้รับเงินค่าขายครบถ้วนแล้วและได้โอนหุ้นแก่ผู้ซื้อแล้ว