ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส ปรับตัวลง แม้ข้อมูลจีดีพีสหรัฐแข็งแกร่ง
ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์ (28ก.ค.) ปรับตัวลดลง แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ซึ่งปกติแล้วจะเป็นปัจจัยหนุน ราคาน้ำมัน เพราะหนุนความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์ (28ก.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับตัวลดลงไม่มากนัก เพราะได้แรงหนุนจากปริมาณน้ำมันตึงตัว หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิต และตลาดได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีน และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 3 เซนต์ ปิดที่ 80.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ ปรับตัวลง 9 เซนต์ ปิดที่ 84.15 ดอลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์ของยูบีเอส ระบุในรายงานว่า "เราคาดว่าตลาดน้ำมันจะตึงตัว เรายังคงมีมุมมองเชิงบวก และคาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 85-90 ดอลลาร์ในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้"
ตลาดน้ำมัน ยังได้รับอิทธิพลจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางต่าง ๆ อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติการดำเนินนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งจะหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์พลังงาน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (27ก.ค.) ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเกินคาด 2.4% ในไตรมาส 2/2566 ขณะที่การฟื้นตัวของตลาดแรงงานหนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค และภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุนในด้านอุปกรณ์ ซึ่งจะสกัดกั้นไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่จีนยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่าจะออกนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจ ซึ่งเพิ่มความหวังว่า จีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกจะมีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 ส.ค.นี้เพื่อทบทวนภาวะตลาดน้ำมัน