‘กูรู’ มองเศรษฐกิจไทยฟื้นช้า ลุ้นรัฐบาลใหม่ประคอง ‘จีดีพี’ โต3%
“ทีดีอาร์ไอ” มองเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า ส่งออก – ท่องเที่ยวฉุดแรง แนะกระตุ้นเศรษฐกิจคู่แก้ปัญหาถูกจุด “นิด้า” หวังรัฐบาลใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นตรงจุดช่วยดันเศรษฐกิจโตได้ 3%
นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ขยายตัวประมาณ 2.5 – 3% ถือว่าสอดคล้องกับระดับที่เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภาคท่องเที่ยวที่ยังฟื้นตัวได้ราวๆ 70% และภาคส่งออกที่น่าจะติดลบในปีนี้เพราะเศรษฐกิจโลกที่โตแบบชะลอตัว
นอกจากนี้ปัจจัยที่ซ้ำเติมก็คือเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณปัญหาวิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งทำให้ไทยได้รับผลกระทบตามไปด้วยจากนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่ฟื้นและส่งออกไปจีนมีแนวโน้มเชิงลบต่อเนื่อง
เมื่อถามว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวในระดับนี้จำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายนณริฏกล่าวว่าเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวลงกว่าที่คาด ก็เป็นเหตุผลให้ออกมาตรการกระตุ้น แต่ก็ต้องให้แบบพอสมควรและหามาตรการกระตุ้นที่ตรงจุด ถูกกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับการช่วยเหลือ และมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งเกิดการหมุนของเงินที่สูง เช่น การให้เงินกับกลุ่มรากหญ้า การกระตุ้นให้เกิดกำลังซื้อในกลุ่ม SMEs การใช้กลไกร่วมจ่าย เป็นต้น
ผศ.ดร.สันติ ชัยศรีสวัสดิ์สุข ศูนย์ศึกษาพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่าจากข้อมูล สศช.ที่ออกมาในวันนี้ตัวเลขเดิมที่ตนประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ประมาณ 3% อาจสูงเกินไป ต้องดูว่าหลังจากรัฐบาลใหม่เข้ามาจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร และทำได้มากแค่ไหน
เมื่อถามว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสที่จะโตได้ไม่ถึง 3% หรือไม่โดยหากรัฐบาลใหม่เข้ามาแล้วสามารถกำหนดนโยบายที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพก็มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 3%