สภาอุตฯภูเก็ต ชี้ฟรีวีซ่า จีน-คาซัคสถาน เพิ่มศักยภาพท่องเที่ยว

สภาอุตฯภูเก็ต ชี้ฟรีวีซ่า จีน-คาซัคสถาน เพิ่มศักยภาพท่องเที่ยว

ประธาน สทท. เผยมาตรการฟรีวีซ่า รับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานของรัฐบาล ส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจของภูเก็ต 

หลังจากรัฐบาลได้มีมาตรการ"ฟรีวีซ่า"ในการเดินทางเข้าประเทศไทย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งครอบคลุมช่วงโกลเด้นวีคหรือวันหยุดยาวในช่วงวันชาติจีน (1 ต.ค.66) และเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งปัจจุบันยังฟื้นกลับมาเพียงร้อยละ 30 ส่วนนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน เป็นมาตรการที่นำมาใช้ เพราะมองว่าเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถเพิ่มการเดินทางเข้าไทยได้ 

ในเรื่องดังกล่าว นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้กล่าวชื่นชมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการออกมาตรการดังกล่าว ซึ่งถือเป็นความต้องการของภาคเอกชน เพราะหากมีการฟรีวีซ่าในช่วงเวลา 5-6 เดือนเป็นการนำร่อง เพื่อทดสอบว่า ดีหรือไม่อย่างไร ถือว่ามาถูกทาง 

ส่วนว่าดีอย่างไรนั้น ด้วยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ได้วางเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ไว้ 30 ล้านคน โดยในไตรมาสที่ 1 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 6 ล้านคน ไตมาสที่ 2 เข้ามา 7 ล้านคน และในไตรมาสที่ 3 ตัวเลขเริ่มจะนิ่งเล็กน้อยเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของไทย ประกอบกับอยู่ในระหว่างจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นการออกมาตรการดังาวจึงส่งผลดีกับการท่องเที่ยวอย่างแน่นอนเพราะที่ผ่านมาหลังจากสถานการณ์โควิด-19 นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยประมาณร้อยละ 30 หรือประมาณ 10 ล้านคนเท่านั้น 

“ด้วยปัญหาของนักท่องเที่ยวจีนอย่างหนึ่ง คือ กลุ่มชาวจีนที่หนังสือเดินทางจะหมดอายุจะต้องเวลาทำประมาณ 1-2 เดือน และการทำวีซ่าก็ยากกว่าเก่า เพราะต้องแสดงสเตทเม้นท์ที่มีเงินประมาณ 5 หมื่นหยวน ฉะนั้นฟรีวีซ่าจึงถือเป็นโอกาสทำให้เขามีความสุข ซึ่งขณะนี้เริ่มได้รับการประสานจากเอเย่นต์คุณหมิงและสิบสองปันนาที่จะเดินทางเข้ามาทางเชียงใหม่ และต้องการเดินทางเชื่อมต่อมายังจังหวัดชายทะเลอันดามัน จึงถือเป็นเรื่องราวที่ดีมากๆ เป็นการสร้างงาน สร้างโอกาส เพื่อให้สายการบินเริ่มวางแผนงาน ส่วนของบริษัทนำเที่ยวต่างๆ กฌต้องเริ่มคิดและกำหนดเส้นทาง” 

 

นายชำนาญ กล่าวถึงความกังวลเรื่องความปลอดภัย ว่า เข้าใจความเป็นห่วงของทุกคน รวมถึงสภาอุตวาหกรรมท่องเที่ยวฯ เองด้วย ซึ่งขอประกาศเลยว่า วันนี้จังหวัดภูเก็ตยังไม่มีทุนจีนสีเทา เพราะเริ่มรีสตาร์ทจำนวนนักท่องเที่ยวจีนก็ยังไม่เข้าเป้า ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันสอดส่องดูแล ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ประกอบการ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกลุ่มแรกๆ ที่ออกมานั้นจะมีกำลังซื้อสูง และหากเที่ยวผ่านทัวร์จะสามารถตรวจสอบได้ 

โดยเฉพาะในเบื้องต้น ควรจะเที่ยวผ่านทัวร์ก่อนแล้ว แต่เป็นกลุ่มเล็กๆ โดยให้แสดงกำหนดการการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยป้องกันได้ในเบื้องต้น ส่วนกรณีข่าวลือทางโซเซียลต่างๆ ในประเทศจีนนั้น วิธีแก้ไม่ยากให้เชิญนักร้องหรือคนดังๆ ของจีนมาถ่ายทำหรือรีวิวบรรยากาศในเมืองท่องเที่ยวแสดงให้เห็นบรรยากาศที่แท้จริง และนำไปเผยแพร่สื่อให้เห็นความปลอดภัยและสะดวกสบาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนของเขา 

อย่างไรก็ตาม นายชำนาญ กล่าวอีกว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในระยะแรกนั้นคงจะไม่พุ่งแบบก้าวกระโดด เพราะจะเดินทางมาทางเครื่องบิน ทำให้จะค่อยๆ เติบโต สิ่งสำคัญคือ เราต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดังนั้นเชื่อว่าจากมาตรการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวดังกล่าว จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแน่นอน 

ขณะที่นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า "มาตรการฟรีวีซ่า"นักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาลจะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว เพราะผู้ประกอบการมีการปรับรูปแบบโมเดลธุรกิจท่องเที่ยวโดยเน้นการตลาดมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว ที่สำคัญนำสินค้าใหม่ ๆ มานำเสนอนักท่องเที่ยวก่อนที่จะมีฟรีวีซ่า

โดยจำนวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นน่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม หรือกลุ่มที่มีศักยภาพสูงในการเดินทาง โดยจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนี้จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จำนวนมาก