ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพลิกปรับตัวลง หลังพุ่งกว่า 1% ในช่วงแรก
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับตัวร่วงลง หลังพุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 92 ดอลลาร์ในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 28 เซนต์ สู่ระดับ 91.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นไปถึง 93.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายช่วงแรก ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 9 เซนต์ปิดที่ราคา 94.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565 และมีแนวโน้มทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายไตรมาสนับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครนในไตรมาส 1 ของปี 2565
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐจากแหล่งชั้นหินดินดานมีแนวโน้มที่จะลดลงสู่ระดับ 9.393 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และจะเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุเตือนว่า การปรับลดอุปทานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย จะทำให้ตลาดเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันในไตรมาส 4
ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่รัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันสู่ระดับ 300,000 บาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เช่นกัน