ย้อนรอย 33 ปี คดี ‘โฮปเวลล์’ ลุ้นศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด จ่ายค่าโง่หรือไม่ ?
จ่อปิดตำนาน 33 ปีคดีมหากาพย์ค่าโง่ “โฮปเวลล์” หลังศาลปกครองกลางตัดสินปมคมนาคม และการรถไฟฯ ชี้ช่องคดีขาดอายุความ ลุ้นสู้ต่อในศาลปกครองสูงสุด
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2566 ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาคดีระหว่างกระทรวงคมนาคมกับพวกรวม 2 คน (ผู้ร้อง) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้คัดค้าน) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับเรื่องที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ในเขตอำนาจศาลปกครอง (คำขอพิจารณาคดีใหม่)
ศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยว่าการที่ผู้คัดค้าน (โฮปเวลล์) ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2541 จึงมีสิทธิที่จะเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการได้อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 30 ม.ค.2546 แต่ผู้คัดค้านยื่นคำเสนอข้อพิพาท เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2547 จึงพ้นระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการเสนอข้อพิพาทตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ.2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวไป 1 ปี 9 เดือนเศษ สิทธิเรียกร้องของผู้คัดค้านจึงขาดอายุความตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และมีคำสั่งปฏิเสธไม่รับบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ กับให้คำสั่งศาลที่ให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดไว้ในระหว่างพิจารณาคดีใหม่มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
อย่างไรก็ดี ข้อพิพาทในคดีนี้ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากตามกระบวนการทางกฎหมาย บริษัทโฮปเวลล์ยังสามารถใช้สิทธิในการสู้คดี ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ โดยหากท้ายที่สุดศาลปกครองพิจารณายืนตามคำตัดสินของศาลปกครองกลาง ก็จะมีผลทำให้คดีเรียกร้องค่าเสียหายจากการยกเลิกสัญญาโฮปเวลล์นั้นไม่เป็นผล เพราะถือว่าขาดอายุความ
ทั้งนี้ จะส่งผลให้กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท.ไม่ต้องชดเชยค่าเสียหายจากกรณียกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการวงเงิน 27,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินต้นตามที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดไว้ที่ 11,888 ล้านบาท รวมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีหรือเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 2.4 ล้านบาท นับจากวันที่คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินในปี 2551
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ศาลปกครองกลางได้พิพากษาในคดีที่มีคำขอพิจารณาคดีใหม่ คดีที่กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท. ฟ้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการกรณีข้อพิพาทในคดีโฮปเวลล์ ในประเด็นคดีขาดอายุความ แต่เบื้องต้นตามขั้นตอนทราบว่าทางโฮปเวลล์ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คดีนี้ไปยังศาลปกครองสูงสุดได้ ดังนั้นต้องติดตามเรื่องนี้ด้วย
สำหรับคดีที่ถูกเรียกว่า "ค่าโง่โฮปเวลล์" หากไล่เรียงไทม์ไลน์มีดังนี้
19 ก.ย.2532 ครม.เห็นชอบโครงการ "โฮปเวลล์"
9 พ.ย.2533 คมนาคม-รฟท.ลงนามในสัญญาสัมปทานว่าจ้างโฮปเวลล์
2534-2535 รัฐบาล "อานันท์ ปันยารชุน" (นุกูล ประจวบเหมาะ รมว.คมนาคม) สั่งตรวจสอบสัญญาและล้มเลิกโครงการ
2536-2538 รัฐบาล "ชวน หลีกภัย" (1) (พ.อ.วินัย สมพงษ์ รมว.คมนาคม) ผลักดันโครงการต่อ
ส.ค.2540 "โฮปเวลล์" หยุดการก่อสร้าง
23 ธ.ค.2540 รัฐบาล "พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" มีมติ ครม.ให้บอกเลิกสัญญากับโฮปเวลล์
20 ม.ค.2541 "คมนาคม" ลงนามบอกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการ (รัฐบาล ชวน หลีกภัย (2) / สุเทพ เทือกสุบรรณ รมว.คมนาคม)
30 ก.ย.2551 อนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้ คมนาคม-รฟท. จ่ายค่าเสียหายแก่ "โฮปเวลล์" 11,888 ล้านบาท
13 มี.ค.2557 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ (คมนาคม-รฟท. ไม่ต้องจ่ายค่าโง่)
22 เม.ย.2562 ศาลปกครองสูงสุดกลับคำพิพากษาคมนาคม-รฟท.ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีรวม 25,711 ล้านบาท ภายใน180 วัน
22 พ.ย.2562 รฟท.ยื่น 4 หน่วยงานเสนอ ครม.งดจ่ายค่าโง่ - สู้คดีต่อ
22 ก.ค.2563 ศาลปกครองสูงสุดไม่รับพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ตามคำร้องของคมนาคม และ รฟท.
17 พ.ย.2563 ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความปมมติที่ประชมใหญ่ตลาการศาลปกครองสูงสุด นับอายุความวันตั้งศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
17 มี.ค.2564 ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ชี้มติศาลปกครองสูงสุดเรื่องนับอายุความขัดรัฐธรรมนูญ
4 มี.ค.2565 ศาลปกครองสูงสุดสั่งรับคดี "โฮปเวลล์" ไว้พิจารณาใหม่
30 ส.ค. 2566 ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดีครั้งแรก
18 ก.ย. 2566 ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ชดใช้ค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี รวมปัจจุบันราว 2.7 หมื่นล้านบาท