ฝนมาช้า ทำข้าวนาปีสะดุด ได้ผลผลิตลดเล็กน้อย 25.76 ล้านตัน
สศก. เผยผลผลิตข้าวนาปี 2566/67 ยังได้ 25.76ล้านตันข้าวเปลือก ลดลงเล็กน้อย3.27 % จากฝนล่าช้า ขณะราคาและทิศทางส่งออกยังสดใส ขยับตัวสูงขึ้น ชี้ 9 เดือนข้าวหอมมะลิเฉลี่ยตันละ 14,226บาท
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตข้าวนาปี ปี2566 (ปีเพาะปลูก2566/67)รวมทั้งประเทศ(ข้อมูล ณ 11 กรกฎาคม 2566) พบว่า มีเนื้อที่เพาะปลูก 62.375ล้านไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว 6.02 แสนไร่ หรือ0.96% เนื้อที่เก็บเกี่ยว59.598ล้านไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว3.16 แสนไร่ หรือ0.53% ผลผลิต 25.761ล้านตันข้าวเปลือกลดลงจากปีที่ผ่านมา8.71แสนตันข้าวเปลือก หรือ3.27%
สำหรับเนื้อที่เพาะปลูกลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้ฝนมาล่าช้า และคาดว่าปริมาณฝนจะน้อยกว่าปี 2565 ซึ่งจากการคาดหมายลักษณะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาปริมาณฝนรวมในช่วงฤดูฝนปีนี้จะน้อยกว่าปีที่แล้ว และช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2566 เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้ขาดแคลนน้ำในด้านการเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน
ส่งผลให้เกษตรกรในบางพื้นที่ปล่อยที่นาให้ว่าง และบางพื้นที่ปลูกข้าวนาปีได้เพียงรอบเดียว ส่วนผลผลิตต่อไร่ลดลง เนื่องจากปริมาณฝนน้อยจากการเกิดปรากฏการเอลนีโญ ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม 2566 ทำให้ฝนทิ้งช่วง เกิดความแห้งแล้ง ส่งผลต่อการงอกของต้นกล้า และการสร้างรวงของต้นข้าว นอกจากนี้ ยังเสี่ยงพบโรคและแมลงศัตรูพืชระบาด เช่น โรคไหม้คอรวง เพลี้ยไฟ เป็นต้น ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศลดลง
ด้านราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้พบว่า ขยับตัวสูงขึ้นทั้งราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิข้าวเปลือกเหนียว และราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น15%ตั้งแต่ต้นปี2565เป็นต้นมา และยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเฉลี่ยช่วง 9 เดือน (มกราคม – กันยายน2566)ราคาเฉลี่ยข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิเฉลี่ย14,226บาท/ ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา13.33%
ส่วนราคาเฉลี่ยของข้าวเปลือกเจ้าความชื้น15% เฉลี่ย10,499 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 20.58% และราคาเฉลี่ยของข้าวเปลือกเหนียว ความชื้น15%เฉลี่ย11,657 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 27.71%
ขณะเดียวกันการส่งออกข้าวในช่วง 7เดือน (มกราคม – กรกฎาคม 2566) มีทิศทางสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี2565ซึ่งการส่งออกข้าวขาวสูงขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า โดยมีปริมาณการส่งออก 2.54ล้านตัน สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีผ่านมา 30.16% มูลค่าการส่งออก 40,767ล้านบาท สูงขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีผ่านมา 51.83%
ขณะที่การส่งออกข้าวเหนียว ในช่วง7เดือนปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันแต่เป็นการสูงขึ้นเฉพาะมูลค่าการส่งออกเท่านั้น โดยมูลค่าการส่งออก 3,347 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี2565 ที่14.14%
ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนที่ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น มาจากความกังวลในสถานการณ์เอลนีโญที่อาจทำให้ผลผลิตข้าวเสียหาย ผลผลิตข้าวของประเทศจีนลดลง ประกอบกับประเทศอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ระงับการส่งออกข้าวขาว ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ทำให้ประเทศไทยสามารถส่งออกได้มากขึ้น