'กกร' หนุน แจก 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ผ่านแอปฯ 'เป๋าตัง' ประหยัดงบลงทุน
"กกร." หนุน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" ช่วยประหยัดงบประมาณ แนะ รัฐบาลเร่งโครงสร้างพื้นฐานด้านอินโนเวชั่น ลดพึ่งพาต่างชาติ สานฝันเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ดัน "จีดีพี" ไทยโต 5%
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วม ภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวในงาน Thailand CEO ECONMASS Awards 2023 เวทีสัมมนาหัวข้อ “เร่งเครื่องยนต์เศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพประชาชน” จัดโดย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า รัฐบาลมีความตั้งใจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ประเทศไทยเติบโต 5%
ทั้งนี้ หากดูจากความมุ่งมั่นการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งตนได้มีโอกาสเดินทางไปหารือกับภาคธุรกิจต่างประเทศด้วย ได้เห็นถึงความตั้งใจและเป็นเซลล์แมนเกิน 100 ซึ่งนอกจากได้พบกับผู้นำของแต่ละประเทศแล้ว ก็ได้พบกับซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อให้เกิด Business Matching
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ท่านนายกฯ ได้หาข้อมูลและหารือกับภาคเอกชน จึงมองว่านโยบายที่ประกาศออกมาน่าจะทำได้ แสดงถึงความเป็นผู้นำสูง สามารถเห็นภาพที่จับต้องได้ใน 1 เดือน คือ การลดค่าครองชีพ ต้นทุน ผ่านมาตรการต่าง ๆ อาทิ ลดค่าไฟฟ้า น้ำมัน และรถไฟฟ้าราคา 20 บาท เป็นต้น
อีกทั้ง โครงการพักการชำระหนี้เกษตรกรรายย่อยจำนวนราว 2.7 ล้านราย คิดเป็นยอดหนี้เงินต้นที่จะพักชำระหนี้ รวมประมาณ 2.83 แสนล้านบาท ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมิณว่าจะช่วยประหยัดเงินราว 5 หมื่นล้านบาท ทำให้ประชาชนมีเงินมาจับจ่ายใช้สอย ถือเป็นมาตรการระยะสั้นที่สร้างการเติบโตจีดีพีในระดับ 0.4-0.5%
นอกจากนี้ เรื่องของการท่องเที่ยว ท่านนายกฯ ได้เชิญเอกชนหารือก่อนออกมาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน จึงคาดการณ์ว่าเดือนพ.ย.-ธ.ค. นี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาในประเทศไทย และยังมีมาตรการอื่น ๆ ซึ่งตนได้พยายามที่จะส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยวในจังหวัดรอง ซึ่งมีโอกาสทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวกับประเทศไทย (ททท.)
ส่วนด้านการส่งออก ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ ได้ทำงานร่วมมือกันอย่างดี มีการตั้ง กรอ.พาณิชย์ ที่ทำงานร่วมกันอย่างมุ่งมั่น และยังเชื่อมั่นว่าปีนี้ยอดการส่งออกไตรมาส 4/2566 จะเป็นบวก เพราะปีที่ผ่านมายอดส่งออกช่วง 5-6 เดือนหลังไม่ดี จึงเชื่อว่าจะติดลบอย่างมากในระดับ 0.1% จากการพยายามผลักดันให้รัฐบาลเจรจาการค้า FTA และอีกการเจรจาสำคัญคือ การเจรจาสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งรมว.ต่างประเทศ จะเป็นอีกแรงที่จะช่วยเจรจา
ส่วนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (CEPA) ระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่เรายังติดค้าง ส่วนนี้จะพยายามสรุปให้ได้ รวมถึงการทำ FTA กับกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ (GCC) แม้จะมีความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งต้องพยายามทำให้รอบด้าน ดังนั้น หากทำสำเร็จจะช่วยเสริมจีดีพีโต 5% ได้ตามเป้า
"การจะทำให้ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างจีนมุ่งฐานการผลิตมาที่ไทยนั้นไม่ยาก ด้วยบรรยากาศเราดี สิ่งที่ต้องทำคือ การแก้ไขกฎระเบียบ กฎหมายให้ต่างช่าติเข้ามา ท่านนายกฯ รับปากจะตั้งคณะทำงานขับเคลื่อน หากได้เหมือนเอสโตเนียที่ไทยทำได้เพียงแค่ 40-50% ก็พอใจแล้ว ซึ่งจุดเด่นเขาเป็นอิเล็กทรอนิกส์หมด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ทำไปมากพอสมควร เรายังอยากได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอื่น ๆ ร่วมด้วย
นอกจากนี้ ประเทศไทยโชคดีที่สินค้าและราพืชผลทางการเกษตรทุกตัวไปได้ดีมาก ถือว่ายังมีโอกาสที่จะช่วยกันขับเคลื่อน จึงต้องอาศัยรัฐบาล ซึ่งสภาฯ มีการลงนามความร่วมมือกับเนเธอร์แลนด์ ที่เก่งด้านเทคโนโลยีเพิ่มผลผลิตและมูลค่าทางการเกษตรและอาหาร แม้จะมีพื้นที่น้อยกว่าไทยมาก แต่สินค้ากลับดีกว่าถึง 10 เท่า รวมถึงอยากให้รัฐบาลส่งเสริมเอกชนในการลงทุนต่างประเทศ
"สิ่งที่อยากให้เร่งคือ รถไฟความเร็วสูง, แลนด์บริดจ์ และซอฟต์พาวเวอร์ ต่าง ๆ สิ่งนี้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน หากทำได้เหมือนเกาหลีจะช่วยประเทศได้มาก ส่วนการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เราได้เสนอว่า ปัจจุบันมีระบบเป๋าตังอยู่แล้ว และมีแพลตฟอร์มและวอลเลตหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วน่าจะมีประโยชน์มากกว่า ไม่ต้องรอลงทุน อีกทั้งเป๋าตังมีการลงทะเบียนราว 40 ล้านคนแล้ว จะช่วยประหยัดเงินลงทุนมหาศาล"
นายสนั่น กล่าวว่า อีกเรื่องสำคัญคือ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน จะไม่ช่วยให้จีดีพีถึงเป้า ดังนั้น จึงควรต้องพิจารณาร่วมกัน ซึ่งมีกลไกไตรภาคีอยู่แล้ว รัฐบาลจะต้องร่วมรับฟัง
สำหรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นายกฯ ถือเป็นเซลล์แมนที่ยอดเยี่ยม ซึ่ง กกร. สนับสนุนในทุกด้าน สิ่งสำคัญที่จะไปสู่ความยั่งยืนของเศรษฐกิจประเทศคือ คนรุ่นใหม่ที่ต่อไปจะต้องเข้าช่วย เรื่อง เอ็ดดูเคชั่น อินโนเวชั่น และดิจิทัล เป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลจะต้องใช้ประเพื่อพัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่พึ่งพาต่างชาติมากเกิน ไปจะทำอย่างไรให้สร้างความเข้มแข็ง