‘สศค.’ปรับลดเป้าจีดีพีครั้งที่ 4 ปีนี้เหลือ 2.7% จาก 3.8%
สศค.ปรับลดเป้าจีดีพีครั้งที่ 4 ปีนี้เหลือ 2.7% จาก 3.8% หลังส่งออกติดลบเพิ่มเป็น 1.8% นักท่องเที่ยวเหลือ 27.7 ล้านคน บริโภคภาครัฐ 3.4% ส่วนปีหน้าคาดจีดีพีโต 3.2% ส่งออกขยับ 4.4% ปัจจัยเสี่ยงหลักคือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ดันต้นทุนราคาพลังงานขยับและส่งออกลด
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า สศค.ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงเหลือ 2.7% จากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ คาดขยายตัวได้ 3.5% เนื่องจาก ปัจจัยหลัก คือ การส่งออกที่คาดขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์เดิม โดยจะขยายตัวติดลบที่ 1.8% การบริโภคภาครัฐขยายตัวลดลงเหลือ 3.4% และภาคการท่องเที่ยวที่คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจะเข้ามาน้อยลงเหลือ 27.7 ล้านคน จากคาดการณ์เดิม 29.5 ล้านคน
ทั้งนี้ การปรับคาดการณ์จีดีพีครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดเป็นครั้งที่ 4 ของปีนี้โดยครั้งแรกเมื่อเดือนม.ค.66 อยู่ที่ 3.8% ครั้งที่สองเดือนเม.ย.66 อยู่ที่ 3.6% ครั้งที่สามเดือนก.ค.อยู่ที่ 3.5% และล่าสุดครั้งนี้อยู่ที่ 2.7% สอดคล้องกับการคาดการณ์ตัวเลขการส่งออกที่ทยอยปรับลดลง โดยเดือนม.ค.66 คาดการณ์ขยายตัวที่ 0.4% เดือนเม.ย.66 อยู่ที่ติดลบ 0.5% เดือนก.ค.อยู่ที่ติดลบ 0.8% และล่าสุดอยู่ที่ติดลบ 1.8%
การคาดการณ์จีดีพีครั้งนี้อยู่บนสมมติฐานหลัก ประกอบด้วย 1.เศรษฐกิจ 15 ประเทศคู่ค้าสำคัญ ซึ่งคาดว่า จะขยายตัวได้ที่ 3.0% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่คาดขยายตัวได้ 2.8% ส่วนปีหน้าคาดการณ์ว่า จะขยายตัวลดลงอยู่ที่ 2.9% จากปัจจัยเสี่ยงความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์และการเติบโตที่ยังไม่ทั่วถึงของประเทศคู่ค้า เศรษฐกิจจีนที่ยังมีปัญหา ความเสี่ยงดังกล่าวจะส่งผลต่อราคาพลังงาน เมื่อบวกกับ ภาวะการเงินโลกที่ตึงตัว อาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ
2.ค่าเงินบาทคาดว่า ทั้งปี 66 จะอ่อนค่ามาอยู่ที่ 35.04 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปี 67 คาดทรงตัวที่ 35.31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 3.ราคาน้ำมันคาดทั้งปีอยู่ที่ 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนปีหน้าคาดว่า จะปรับเพิ่มเป็น 88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 3.นักท่องเที่ยวต่างประเทศคาดทั้งปีอยู่ที่ 27.7 ล้านคน รายได้อยู่ที่ 1.18 ล้านล้านบาท ปี 67 อยู่ที่ 34.5 ล้านคน รายได้อยู่ที่ 1.49 ล้านล้านบาท 5.รายจ่ายสาธารณะปี 66 อยู่ที่ 3.08 ล้านล้านบาท หรือ 97% ของงบประมาณ ปี 67 คาดเบิกจ่ายได้ 3.21 ล้านล้านบาท หรือ 92.3%
สำหรับคาดการณ์จีดีพีปี 67 นั้น สศค.คาดว่า จะสามารถขยายตัวได้ 3.2% ได้รับแรงหนุนจากการบริโภคเอกชนคาดจะขยายตัวได้ 3.1% ส่งออกขยายตัวได้ 4.4% นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มเป็น 34.5 ล้านคน ทั้งนี้ สศค.ยังไม่ได้นำมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะนำมาใช้มาคำนวณในจีดีพีดังกล่าว เนื่องจาก รอความชัดเจนในรายละเอียด
เขากล่าวว่า แม้คาดการณ์เศรษฐกิจปี 67 จะขยายตัวดีขึ้น แต่สศค.ยังมองปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยังคงมีอยู่มาก โดยเฉพาะปัจจัยความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในประเทศต่างๆ ทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส สงครามยูเครน การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐกับจีน ปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อราคาพลังงานและซัพพลายเชนของโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องของความผันผวนตลาดการเงินโลก ส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันและการไหลเข้าออกของเม็ดเงินลงทุน 3.เศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะไม่สามารถเติบโตได้ตามคาด ส่งผลต่อการส่งออกและจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในไทย และ 4.ปรากฎการณ์เอลนีโญ ซึ่งจะกระทบต่อการเพาะปลูก รายได้เกษตรและรายได้ภาคครัวเรือน