กกร.เร่งรัฐบาลแจก 'เงินดิจิทัล' ใน เม.ย.67 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโต
กกร.คงกรอบประมาณการ GDP ปี 2566 โต 2.5-3% ปรับตัวเลขส่งออกจากเดิม -0.5 ถึง -2 % เป็น -1 ถึง -2% หวั่นสงครามในอิสราเอล กระทบระยะข้างหน้า พร้อมหนุนรัฐบาลเร่งคลอดเงิน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ให้ได้ใช้จ่ายได้ทันในเดือนเม.ย.67 หนุนเศรษฐกิจไทย ผ่านแอปเป๋าตัง จำกัดกรอบของผู้รับเงิน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะทำหน้าที่ประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.ประจำเดือน พ.ย.2566 ได้พิจารณาทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2566
ทั้งนี้ กกร.ยังคงกรอบประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เติบโตได้ระดับ 2.5-3.0% และคงอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.7-2.2%
อย่างไรก็ตาม กกร.ได้ปรับการส่งออกใหม่จากเดิม -0.5 ถึง -2 % เป็น -1 ถึง -2% เนื่องจากกำลังซื้อของครัวเรือนไทยเริ่มแผ่วลง ขณะที่ปัจจัยบวกนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มอยู่ที่ 28-29 ล้านคนน้อยกว่าประมาณการเดิมที่ 29-30 ล้านคน
รวมทั้งสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอนซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกในระยะข้างหน้า ส่วนสินค้าส่งออกหลักของไทย คือ สินค้าเกษตรและยานยนต์ ยังมีแนวโน้มขยายตัวในช่วงที่เหลือของปี
นอกจากนี้ การที่ กกร.คงกรอบ GDP เท่าเดิม เพราะเราคาดหวังว่ามาตรการยกเว้นการขอวีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มเติมให้กับอินเดียและไต้วันในช่วงไฮซีซั่น รวมทั้งแรงหนุนจากมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนของรัฐที่จะช่วยประคองเศรษฐกิจที่เหลือของปี แต่การส่งออกนั้นยังคงต้องติดตามสงครามในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด ที่อาจกระทบในระยะต่อไป
รวมทั้ง กกร.กังวลค่าเงินบาทที่อยู่ในทิศทางอ่อนค่า แม้ว่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่น ๆ แต่เป็นปัจจัยดันให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลจากความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจระยะข้างหน้ายังมีปัจจัยเสี่ยงจึงเห็นด้วยกับมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย กระเป๋าเงินดิจิทัล (ดิจิทัลวอลเล็ต) เพื่อช่วยประคับประคองกำลังซื้อในประเทศ
สำหรับ การแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ใช้ระบบเดิมที่เสถียร ปลอดภัย ประชาชนคุ้นชิน เน้นต่อยอดไม่ลงทุนซ้ำซ้อนคือกระเป๋าตัง และส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อประโยชน์โดยรวมโดยเห็นว่าควรจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือน เม.ย. 2566 นี้ เพราะหากเลยไปเป็นเดือน ก.ย.อาจช้าไปเพราะเศรษฐกิจไทยต้องการกระตุ้นอย่างแรง
“อยากให้พิจารณากลุ่มเป้าหมายที่จะต้องแจกให้ประชาชนโดยโฟกัสกลุ่มที่จำเป็น และผ่านแอปเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ที่เป็นธนาคารภายใต้การกำกับของรัฐบาล มีประชาชนลงทะเบียนไว้แล้วในอดีตจะช่วยลดระยะเวลา ไม่ต้องลงทุนด้านดิจิทัลที่รัฐบาลได้พูดไว้ และช่วนให้เม็ดเงินกระจายให้สินค้าที่ผลิตในประเทศ ช่วยเม็ดเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจประเทศ”
ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ กกร.เห็นว่าผู้ประกอบการยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจึงควรพิจารณาให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจแต่ละพื้นที่ผ่านกลไกคณะกรรมการไตรภาคีของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กกร.สนับสนุนเงินดิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ในรายละเอียดโดยเฉพาะวงเงินที่จะได้มาคงเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องทำความเข้าใจ
รวมทั้งเห็นด้วยที่จะเร่งออกมาในช่วงต้นปีนี้และเริ่มใช้ได้ในเดือน เม.ย.2566 ส่วนแนวทางอยากให้ใช้ผ่านแอปเป๋าตังของรัฐบาลก่อนหน้านี้ เพื่อต่อยอดการพัฒนาที่นอกจากจะลดต้นทุนแล้วยังจะสามารถทำได้รวดเร็วเพราะมีระบบเดิมรองรับอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองภาครัฐตนก็เข้าใจว่าการจะวัดระดับคนรวยคนจนนั้นจะเอาอะไรมาวัด เพราะคนรวยก็ยังอยากได้เงินอยู่ ถ้าเงินกว่า 5 แสนล้านบาท หมุนเข้าระบบก็ควรออกแบบให้รัดกุม เพื่อที่จะประหยัดเงินได้มาก โดยจะกระชากแรงก็จะต้องออกแบบให้รัดกุม การปรับมาใช้ดิจิทัล กำหนดพื้นที่และชนิดสินค้าได้
ดังนั้น จึงต้องปิดจุดอ่อนเดิมและที่กำหนดการใช้จ่ายใน 6 เดือน ต้องการให้เกิดอิมแพ็คจริง เพื่อให้เครื่องติดได้ ส่วนเม็ดเงินจะเอามาจากไหน กกร.ตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช้หน้าที่ กกร.โดยรัฐบาลจะต้องทำการบ้านให้ตอบโจทย์และต้องถูกกฏหมาย ซึ่ง กกร.สนับสนุนโดยเก็บข้อมูลตามรัฐบาลเดิมและทำต่อยอดได้
ทั้งนี้ ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ได้พิจารณาลดค่าครองชีพประชาชนด้วยการปรับลดค่าไฟฟ้าและน้ำมัน แต่ต้องการเห็นความยั่งยืนที่จะทำให้เกิดการแข่งขันของประเทศที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่อินโดนีเซีย อยู่ที่ 2.30 บาทต่อหน่วย ส่วนเวียดนาม 2.70 บาทต่อหน่วย ในขณะที่ไทยอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ดังนั้นจึงควรปรับมาอยู่ในอัตราที่ใกล้กับเพื่อนบ้าน
"เรามีแพลตฟอร์มเดิมที่ดีอยู่แล้ว เช่น แอปฯ เป๋าตัง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ได้ผลดี จะใช้เป็นกลไกได้ทันที สามารถต่อยอดไปอย่างอื่นในภาครัฐได้ทันที การที่เป็นดิจทัล วอลเล็ตจะสามารถที่จะกำหนดพื้นที่ ชนิดสินค้าได้ซึ่งต้องเป็นสินค้าที่ผลิตในเมืองไทย หรือ เมดอินไทยแลนด์"
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทยในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท นั้น กกร.สนับสนุนที่ให้การดำเนินงานได้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการมุ่งเน้นการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อความยั่งยืน