นภินทร ถก การค้าเอเปค เชื่อมโยงอย่างครอบคลุม ยืดหยุ่น

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสการประชุมรัฐมนตรีความร่วมมือเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก(เอเปค )ครั้งที่ 34 (AMM)ที่นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐ ระหว่างวันที่14-15 พ.ย. 2566 มีข้อหารือกันเรื่องการค้าระดับภูมิภาค ที่ต้องมีการเชื่อมโยงกันอย่างมีความยืดหยุ่นถึงการให้โอกาสกับสตรีและคนต่างเพศ นอกจากนี้ไทยพร้อมสนับสนุนเงื่อนไขขององค์การการค้าโลก (WTO)และ เอเปค

 

“แม้การประชุมจะเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งต่างๆแต่เวทีเอเปคจะคุยกันเฉพาะประเด็นทางเศรษฐกิจ เช่นทำอย่างไรให้ เอสเอ็มอี เติบโตได้ ค้าขายได้และแข็งแกร่งด้วย”

สำหรับกำหนดการหารือทวิภาคี จะหารือกับรัฐมนตรีการค้าสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เปรู เกาหลีใต้ ส่วนกำหนดการประชุมเอเปคระดับรัฐมนตรีจะมีขึ้น 14-15 พ.ย. ก่อนส่งสรุปผลการหารือเป็นถ้อยแถลงร่วมเพื่อให้เวทีผู้นำพิจารณาต่อไป  

ทั้งนี้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) (Asia-Pacfic Economic Cooperation: APEC)เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเปิดเสรี ทางการค้าและการลงทุน การรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม ซึ่งปัจจุบันมี 21 เขตเศรษฐกิจสมาชิก (รวมประเทศไทย)  

โดยในปี 2566  นั้น สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 11-17  พ.ย. เช่น การประชุม รัฐมนตรีเอเปค ระหว่างวันที่  14-15 พฤศจิกายน 2566 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ประจำปี 2023 ระหว่างวันที่15-17 พ.ย. 2566 ณ นครซานฟรานชิสโก รััฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ภายใต้หัวข้อหลัก "สร้างอนาคตที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น สำหรับทุกคน"  

สาระสำคัญของการประชุม ประกอบด้วย การส่งเสริมด้านการค้าและการลงทุนที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในภูมิภาคเอเปค  เช่น MSME สตรี และกลุ่มอื่น ๆ ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจแต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ (เช่น กลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิม ผู้พิการ และกลุ่มคนจากชุมขนชนบทและชุมชนห่างไกล ) โดยใช้ความร่วมมือทางเทคนิค และการเสริมสร้างขีดความสามารถในอนาคต (เช่น การฝึกอบรม) 

รวมทั้งการสนับสนุนจากระบบ การค้าพหุภาคีที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎระเบียบ โดยมีองค์การการค้าโลกเป็นแกนกลาง เพื่อให้สมาชิกเอเปคสามารถจัดการกับความท้าทายทางการค้าโลกในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นใหม่ อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การหารือเพื่อให้มีกลกระงับข้อหิพาทที่ทำงานได้ดี เต็มที่ และเข้าถึงได้

โดยสมาชิกทั้งหมดขององค์การการค้าโลก ภายในปี ค.ศ.2024  ความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกของการไหลเวียนของข้อมูลและเสริมสร้างความเชื่อมั่น

ของธุรกิจและผู้บริโภคในการทำธุรกรรมดิจิทัล ผ่านความร่วมมือด้านกฎระเบียบสำหรับอินเทอร์เน็ต และเศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนการคุ้มครองผู้บริโภคในระบบดิจิทัล และการส่งเสริมสิทธิในทรัพย์สิน ทางปัญญาผ่านนโยบายและโครงการที่ผลักดันนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์

 การเสริมสร้างระบบสาธารณสุข เพื่อป้องกัน เตรียมความพร้อม และตอบสนองต่อโรคระบำาด ทั้งนี้ เพื่อสร้างระบบสาธารณสุขที่ยึดหยุ่น เท่าเทียม และยั่งยืน โดยย้ำความมุ่งมั่นของรัฐมนตรีสาธารณสุขเอเปค ในการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าผ่านการลงทุนและการระดมทุนเพื่อสร้างระบบสาธารณสุข ที่เข้มแข็งและยึดหยุ่น รองรับแรงงานด้านสาธารณสุขที่มีทักษะและความสามารถ

รวมถึงระบบสุขภาพดิจิทัล และการประสานงานเพื่อรับประกันการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ

การส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อ ความยั่งยืน การบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินเพื่อเตรียมความพร้อมของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ต่อภัยพิบัติ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยให้สำคัญกับกรอบและแผนปฏิบัติการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของเอเปค ในการเตรียมความพร้อมแก่เขตเศรษฐกิจเอเปคต่อภูมิทัศน์ด้านภัยพิบัติที่ชับซ้อนขึ้น และพยายาม ขับเคลื่อนคำมั่นของผู้นำเอเปคในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจโลกที่ยึดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ

การทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุุระบบการเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน เป็นธรรม และยืดหยุ่น โดยให้ ความสำคัญกับการผลิตที่ยั่งยืน การค้าที่เสรี เปิดกว้าง เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ

การบรรเทาและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงอาหารและโภชนาการสำหรับทุกคน   การบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินเพื่อเตรียมความพร้อมของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ต่อภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยให้สำคัญกับกรอบและแผนปฏิบัติการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของเอเปคในการเตรียมความพร้อมแก่เขตเศรษฐกิจเอเปคต่อภูมิทัศน์ด้านภัยพิบัติที่ซับซ้อนขึ้น และพยายาม ขับเคลื่อนคำมั่นของผู้นำเอเปคในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจโลกที่ยึดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ  เป็นต้น