JETRO พบผู้แทนการค้าไทย ถกแนวทางหนุนเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมในประเทศ
เจโทร กรงเทพฯ พบผู้แทนการค้าไทย ถกแนวทางหนุนเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมในประเทศ ชี้อีวีนำเข้าจะกระทบซัพพลายเชนยานยนต์ ด้านค่ายรถญี่ปุ่นเตรียมโมเดลปิ๊กอัพอีวีรุกตลาดไทย ขยายลงทุนฐานผลิตอีวี
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายคุโรดะ จุน ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ กรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับต้นของไทย ทั้งในแง่มูลค่าการลงทุนสะสมและความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจร่วมกับไทยมาอย่างยาวนาน โดยที่ผ่านมานักลงทุนญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจของไทยตั้งแต่การพัฒนาบุคคลากร และสร้างความเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจตั้งแต่ระดับเอสเอ็มอี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการที่ญี่ปุ่นมีมูลค่าการลงทุนสูงที่สุด
“การเข้ามาลงทุนของค่ายรถญี่ปุ่นยังได้สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในประเทศจำนวนนมากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่การผลิต และขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง”
“การเข้ามาลงทุนของค่ายรถญี่ปุ่นยังได้สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในประเทศจำนวนนมากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่การผลิต และขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ นายคุโรดะ ยังได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยในการดำเนินนโยบายส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านภาคอุตสาหกรรมไปสู่เทคโนโลยีใหม่เพื่อขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจสีเขียว โดยการผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นจะทำให้ผู้ผลิตที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานการผลิตรถยนต์สันดาปภายในได้รับผลกระทบเนื่องจากชิ้นส่วนยานยนต์จำนวนมากที่หายไป ดังนั้นการวางแผนร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนในช่วงการเปลี่ยนผ่านจึงจำเป็นเพื่อให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวเนื่องได้ปรับตัว ทั้งด้านเทคโนโลยีการผลิต การพัฒนาทักษะบุคคลากร รวมถึงการเปลี่ยนไปผลิตสินค้าอื่นเพื่อทดแทนปริมาณความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะหายไป
ทั้งนี้ เจโทรเปิดเผยว่า ผู้ประกอบการค่ายรถญี่ปุ่นเองเริ่มขยับและพร้อมปรับตัวที่จะขยายฐานการผลิตรถอีวีในไทย โดยบางค่ายเริ่มนำรถกระบะ (Pick-Up) ซึ่งถือเป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เข้ามาเริ่มทดลองใช้งาน
โดยทางเจโทรพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการสนับสนุนข้อมูลและสะท้อนผลสำรวจความคิดเห็นของบริษัทญี่ปุ่นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในไทยให้รับทราบ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวางแผนและการแก้ไขอุปสรรคการลงทุนในไทย (Ease of Investment)
นอกจากนี้ เจโทรยังได้กล่าวถึงการเจรจาขยายขอบเขตความร่วมมือระหว่างไทยกับนานาประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อนักลงทุนต่างชาติในไทย โดยเฉพาะการเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งปัจจุบันสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ Country PRogramme ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2568) และอยู่ระหว่างเตรียมเสนอเรื่องการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในปี 2566