คมนาคมเลื่อนเก็บค่าโดยสาร 'รถไฟฟ้าสายสีชมพู' 3 ม.ค.2567
“คมนาคม” ประกาศข่าวดี ! ขยายระยะเวลาทดลองให้บริการฟรี “รถไฟฟ้าสายสีชมพู” เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เลื่อนเก็บค่าโดยสาร 3 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการเจรจาร่วมกับ และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี เพื่อขยายระยะเวลาเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู
โดยขณะนี้ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะขยายระยะให้บริการฟรีตลอดสาย ครบทั้ง 30 สถานี รวมถึงเปิดให้บริการจอดรถฟรี บริเวณชั้น 1 ของอาคารจอดแล้วจรที่สถานีมีนบุรี ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 2 ม.ค.2567 เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขส่งท้ายปีให้แก่ประชาชน และจากนั้นจึงจะเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป
นายสุริยะ กลล่าวด้วยว่า ภายหลังเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวในการมาทดลองใช้บริการจำนวนมาก โดยมีผู้มาใช้บริการในวันที่ 21 พ.ย.2566 รวมจำนวน 50,910 คน-เที่ยว (ให้บริการช่วงเวลา 15.00-20.00 น.) และมีผู้มาใช้บริการในวันที่ 22 พ.ย. 2566 รวมจำนวน 98,262 คน-เที่ยว (ให้บริการช่วงเวลา 06.00-20.00 น.) สะสมสองวันมีผู้ใช้บริการรวม 149,172 คน-เที่ยว
ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่สะท้อนถึงความพร้อมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางของคนไทย หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะกันมากขึ้นยิ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ขนส่งผู้โดยสารได้คราวละมากๆ และใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ก็จะช่วยบรรเทาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลกไปได้โดยปริยาย
นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนยังช่วยให้ประชาชนสามารถควบคุมเวลา วางแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้นได้รับทั้งความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบาย Quick Win “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ที่มุ่งยกระดับความสุขของประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความปลอดภัย การให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากล และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ที่วิ่งให้บริการในเส้นทางแคราย - มีนบุรี รวมระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ด้วยขนาด 4 ตู้ต่อขบวน โดยจะใช้ขบวนรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการในระบบและขบวนสำรองรวมทั้งสิ้น 42 ขบวน
สำหรับรถไฟฟ้าสายนี้มีจุดเด่นในการทำหน้าที่เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder Line) เพราะมีสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักมากถึง 5 สถานี ได้แก่
- สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง)
- สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อกับรถไฟชานเมือง สายธานีรัถยา
- สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว
- สถานีวัชรพล เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาในอนาคต
- สถานีมีนบุรี เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม (MRT สายสีส้ม)
ทั้งนี้สามารถขนส่งผู้โดยสารจากพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เข้าสู่รถไฟฟ้าสายหลักที่วิ่งให้บริการในพื้นที่ใจกลางเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2567 เป็นต้นไป จะเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ ด้วยอัตราค่าโดยสาร 15 – 45 บาท
นอกจากนี้ ยังมีอาคารจอดแล้วจรให้บริการ 1 แห่ง ใกล้กับสถานีมีนบุรี ขนาด 3 ชั้น สามารถรองรับรถยนต์ได้ 3,025 คัน โดยมีพื้นที่จอดรถสำหรับผู้พิการ และพื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ ลิฟต์โดยสาร ห้องน้ำ ห้องน้ำผู้พิการ บันไดหนีไฟ และกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ไว้ให้บริการอย่างครบครัน
ซึ่งผู้ใช้บริการอาคารจอดแล้วจรสามารถใช้ทางเดินเชื่อมต่อเข้าสู่สถานีมีนบุรีได้โดยสะดวก โดยตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2567 เป็นต้นไป จะเริ่มเก็บค่าบริการจอดรถในอัตรา 5 บาทต่อชั่วโมง สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู และอัตราชั่วโมงละ 20 บาท สำหรับผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู กรณีผู้ถือบัตรแรบบิทสามารถเลือกใช้บริการจอดรถถรายเดือนได้ในอัตรา 1,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ยกเว้นค่าบริการจอดรถให้ หากจอดรถไม่เกิน 15 นาที