กกร.จี้รัฐ 'ตรึง' ค่าไฟฟ้า 3.99 บาท/หน่วย

กกร.จี้รัฐ 'ตรึง' ค่าไฟฟ้า 3.99 บาท/หน่วย

ภาคเอกชนวอนรัฐบาลตรึงราคาค่าไฟฟ้า 3.99 บาท/หน่วย จนกว่าจะมีการปรับโครงสร้างค่าไฟใหม่ ห่วงกระทบราคาสินค้าที่อาจปรับเพิ่ม 5-10% รวมทั้งบั่นทอนขีดความสามารถแข่งขันของประเทศ จี้ตั้ง กรอ.พลังงานแก้โครงสร้างค่าไฟระยะยาว

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เกรียงไกร เธียรนุกูล กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ระบุว่า กรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.เห็นชอบประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวดเดือนม.ค.- เม.ย.2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 4.68 บาท/หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 17% จากงวดปัจจุบันเดือนก.ย.- ธ.ค.2566 ที่ 3.99 บาท/หน่วย

มองว่าการขึ้นค่าไฟฟ้าขณะนี้เป็นการซ้ำเติมประชาชน เพราะอาจทำให้ราคาสินค้าปรับขึ้น 5 - 10% รวมถึงกระทบกับนักลงทุนต่างชาติต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน เป็นปัจจัยบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ดังนั้น ภาครัฐควรพิจารณาทบทวนค่าไฟงวดเดือนม.ค.- เม.ย.2567 ให้รอบคอบอีกครั้ง โดยเห็นว่าควรตรึงค่าไฟไว้อยู่ที่ 3.99 บาท/หน่วยไปก่อน จนกว่าจะมีการปรับโครงสร้างค่าไฟใหม่ และควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชน หรือ กรอ.ด้านพลังงาน เพื่อการมีส่วนร่วมดูแลโครงสร้างค่าไฟด้วย

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 เติบโตได้น้อยกว่าที่คาด 9 เดือนแรกเติบโตได้เพียง 1.9% โดยการส่งออกยังชะลอตัวตามทิศทางประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะจีน การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง และชะลอการผลิตเพื่อเติมสินค้าคงคลัง 

นอกจากนี้ รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 28 ล้านคน ลดลงจากคาดการณ์เดิม 30 ล้านคน การใช้จ่ายต่อหัวลดลงเหลือเพียง 43,000 บาท จากที่เคยประมาณการ 45,500 บาท 

สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 2.8 - 3.3% มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะโตได้น้อยกว่า 3% ซึ่งเป็นระดับศักยภาพเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยเผชิญทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และปัจจัยความเปราะบางในประเทศ เช่น หนี้ครัวเรือน หนี้ของภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs 

ส่วนปัจจัยบวกสำหรับปี 2567 ได้แก่ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 33 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคนจากปี 2566 ทั้งนี้ หากนโยบายเติมเงินใน digital wallet ดำเนินการได้เต็มวงเงิน 5 แสนล้านบาท ประเมินว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตของ GDP ได้อีกอย่างน้อย 1 - 1.5%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์