การรถไฟฯ รับค่าเช่าที่ดิน 'เซ็นทรัล ลาดพร้าว' 1.3 พันล้าน สัญญาเหลือ 5 ปี
การรถไฟฯ รับชำระค่าเช่าการใช้ประโยชน์ที่ดิน บริเวณที่ดินสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน จากบริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา จำกัด ประจำปี 2567 จำนวนกว่า 1,387 ล้านบาท เผยสัญญาเหลืออายุ 5 ปี หมดปี 2571
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นผู้แทนการรถไฟฯ รับเช็คค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ศูนย์การค้าบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธินประจำปี 2567 จากนายปัณฑิต มงคลกุล ประธานกรรมการบริหารสายบัญชีการเงิน นายสุภรัฐ จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เป็นผู้แทนจากบริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา จำกัด
ทั้งนี้เป็นค่าใช้ประโยชน์จากการใช้พื้นที่ของการรถไฟฯ ในรอบระยะเวลา 1 ปี (วันที่ 19 ธันวาคม 2566 - 18 ธันวาคม 2567) เป็นเงิน 1,387 ล้านบาท ณ ห้องประชุมคณะกรรมการรถไฟฯ ชั้น 2 ตึกบัญชาการรถไฟ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การได้รับชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนครั้งนี้ เป็นไปตามที่การรถไฟฯ ได้ทำสัญญาให้สิทธิใช้ประโยชน์ศูนย์การค้าบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน จำนวนพื้นที่ 47.22 ไร่
ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับ บริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา จำกัด ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2551 ในกรอบระยะเวลาการใช้ประโยชน์ 20 ปี (วันที่ 19 ธันวาคม 2551 – 18 ธันวาคม 2571)
ทั้งนี้ มีผลตอบแทนรวมตลอดอายุสัญญาเป็นเงิน 21,298 ล้านบาท แบ่งออกเป็น
- รายได้จากค่าเช่ารายปี 18,687 ล้านบาท
- ค่าผลประโยชน์ตอบแทนการได้สิทธิ์ 2,611 ล้านบาท
โดยกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ศูนย์การค้าบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน ภายในวันที่ 19 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งจะต้องชำระให้แก่การรถไฟฯ เป็นรายปี รวมทั้งหมด 20 งวด ตลอดระยะเวลาสัญญา
สำหรับการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน ตามสัญญาให้สิทธิ์ใช้ประโยชน์ศูนย์การค้า บริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน ประจำปี 2567 ครั้งนี้ เข้าสู่ปีที่ 16 ที่การรถไฟฯ จะได้รับจากบริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์ พัฒนา จำกัด โดยคิดเป็นจำนวนเงิน 1,387 ล้านบาท
ส่งผลให้นับตั้งแต่เริ่มสัญญาจนถึงปัจจุบัน ระหว่างปี 2551-2567 การรถไฟฯ ได้รับชำระค่าผลประโยชน์แล้วทั้งสิ้น 13,724 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้วางกรอบแนวทางการดำเนินงาน และการบริหารที่ดินของการรถไฟฯ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- พื้นที่ Core Business เป็นพื้นที่ย่านสถานี ที่ทำการ เขตทางรถไฟ
- พื้นที่ Non-Core Business ที่สามารถนำไปทำประโยชน์ได้
รวมทั้งในอนาคตการรถไฟฯ จะดำเนินการตามแผนงานที่จะนำพื้นที่ Non-Core Business มาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะดำเนินการออกจัดประโยชน์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับการรถไฟฯ ต่อไป