แกะกล่องของขวัญปีใหม่ 'กระทรวงพาณิชย์' หวังลดค่าครองชีพ ลดต้นทุนธุรกิจ
พาณิชย์ ส่งมอบความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มอบของขวัญปีใหม่ 2567 ภายใต้ 4 มาตรการ”เพิ่มอาชีพ เพิ่มทักษะ เพิ่มโอกาส และเพิ่มความสุข” ช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ 4,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท
กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมของขวัญปีใหม่ 2567 ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ โดยจะส่งมอบความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภายใต้มาตรการ 4 เพิ่ม คือ เพิ่มอาชีพ เพิ่มทักษะ เพิ่มโอกาส และเพิ่มความสุข ตั้งเป้าจะช่วยสร้างอาชีพใหม่ได้มากกว่า 20,000 ครัวเรือน ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ SMEs และคนตัวเล็ก 1,656 ล้านบาท มี SMEs ได้ประโยชน์มากกว่า 6,000 ราย และช่วยพี่น้องประชาชนลดภาระค่าครองชีพได้ 4,000 ล้านบาท สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท
1.มาตรการเพิ่มอาชีพ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลดค่าแพคเกจแฟรนไชส์สูงสุด 30% ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. 2566 - 15 ม.ค. 2567 โดยมีแฟรนไชส์ที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ เข้าร่วมโครงการจำนวน 33 ราย แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มอาหาร 23 ราย กลุ่มเครื่องดื่ม 8 ราย กลุ่มการศึกษา 1 ราย และ กลุ่มบริการ 1 ราย เช่น แฟรนไชส์ร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด หรือเครื่องดื่มชานม อย่าง Am Tea หรือ Zerocco เป็นต้น และจะมีเจ้าหน้าที่ไปช่วยดูแลทั้งกระบวนการดำเนินธุรกิจให้เกิดความเป็นธรรม เปิดหลักสูตรอบรมออนไลน์เสริมแกร่งให้ธุรกิจผ่าน https://dbdacademy.dbd.go.th
เริ่มอบรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 พ.ย.2567 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเลือกพัฒนาตัวเองได้ใน 4 หลักสูตร (34 หัวข้อ) ได้แก่ การเริ่มต้นธุรกิจ การเงินและบัญชี e-Commerce และการประกอบธุรกิจและภาษาอาเซียน และเมื่อผ่านการเรียนจบแต่ละหลักสูตรจะได้รับหนังสือรับรองหรือนับชั่วโมง CPD ได้ในหลักสูตรบัญชี การอบรมออนไลน์จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง อัปเดตข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์การค้าปัจจุบัน รวมถึงไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา สถานที่และค่าใช้จ่ายในการเรียนทำให้ธุรกิจเข้าถึงโอกาสได้อย่างเท่าเทียมกัน
2.มาตรการเพิ่มทักษะ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เตรียมหลักสูตรสำคัญและจำเป็นแก่ SMEs ตลอด 3 เดือน เพราะรัฐบาลได้ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ การพัฒนาและยกระดับทักษะฝีมือแรงงานหรือ Up-Skill, Re-Skill จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสอดรับกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้น และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยหลักสูตรที่จะเปิดสอนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น การบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร การเพิ่มทักษะในการทำงบดุลบัญชี การคำนวณต้นทุน การพัฒนาทักษะการค้าออนไลน์
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดให้ความรู้ด้านความตกลงการค้าเสรีหรือ FTA การสัมมนาให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจ ผลกระทบ และโอกาส จากปัญหาอิสราเอล-ฮามาส รัสเซีย-ยูเครน และจีน-สหรัฐฯ เป็นต้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มความรู้พัฒนาการพัฒนาผู้ส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
3.มาตรการเพิ่มโอกาส โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และบริษัท โฟโนไรทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ถือสิทธิการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงไทยและเพลงสากลกว่า 10 ล้านเพลงจากกว่า 60 ค่ายดัง จัดโครงการให้สิทธิผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นสมาชิก สสว. ใช้เพลงฟรี ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2566 – 15 มี.ค.2567 รวม 3 เดือน พร้อมให้ผู้ประกอบการที่เลือกใช้งานเพลงต่อได้รับส่วนลดพิเศษ 50 – 55 เปอร์เซ็นต์ ต่อเนื่องไปอีก 1 ปีเมื่อต่ออายุการใช้งาน ซึ่งจะช่วย SMEs ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ สปา โรงแรม รีสอร์ต สามารถใช้ลิขสิทธิ์เพลงภายใต้ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่มีเพลงมากกว่า 10 ล้านเพลง
ให้บริการระบบจดทะเบียนฯ ทางอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ (IP e-Registration) โดยครอบคลุมตั้งแต่การยื่นคำขอผ่านe-Filing การจ่ายเงินผ่าน e-Payment การรับใบเสร็จผ่าน e- Receipt และการรับหนังสือสำคัญ ผ่านระบบ e-Certification เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้บริการ ได้กว่า 100 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งบริการจดสิทธิบัตร Fast Track นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต
โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.อาหารใหม่ เช่น โปรตีนจากพืช เนื้อจากพืช นมจากพืช 2. อาหารเสริมสุขภาพ เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่เสริมด้วยวิตามินหรือแร่ธาตุต่างๆ อาหารเพิ่มปริมาณโอเมก้า 3 นมผงที่เสริมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารก ขนมเสริมโปรตีนจากแมลง นมอัดเม็ดเสริมฟลูออไรด์ 3. อาหารอินทรีย์ เช่น อาหารจากผลิตผลทางการเกษตรที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช การฉายรังสี ไม่มีการใช้สายพันธุ์ที่ดัดแปลงพันธุกรรม ไม่เกิดมลพิษในกระบวนการผลิต 4. อาหารทางการแพทย์ เช่น อาหารสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เป็นต้น โดยคำขอที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจะได้รับการตรวจสอบโดยเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ ทราบผลภายใน 12 เดือน
นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาการให้บริการต่างๆของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขยายเวลาให้บริการนอกเวลาทำการ ระหว่างเวลา 16.30-17.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ถึงวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.2566 ในบริการ 2 ประเภท ได้แก่ งานบริการจดทะเบียนนิติบุคคล ทั้งในรูปแบบ Walk-in และออนไลน์ สำหรับห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด ให้บริการ ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ ชั้น 4 หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1-6 หรือ ผ่านระบบออนไลน์ e-Registration และสำหรับบริษัทมหาชนจำกัด ให้บริการ ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ ชั้น 4 หรือผ่านระบบออนไลน์ e-PCL และงานบริการข้อมูลธุรกิจ ออกหนังสือรับรอง รับรองสำเนา และตรวจค้นเอกสาร ผ่านระบบออนไลน์ e-Service รูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate File) และสามารถ Walk-in มารับเอกสารได้ ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ ชั้น 3 ถึงเวลา 17.30 และลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567–31 ธ.ค.2569 ในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลาและสตูล
4.มาตรการเพิ่มความสุข ในปีกระทรวงพาณิชย์ได้จัดงาน นิวเยียร์ เมกกะเซลล์ 2024 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 9-10 วันที่ 20-24 ธ.ค.2566 และร่วมมือกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้าง ร้านทั่วประเทศ ลดราคาสูงสุด 82% เริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค.2566 ถึง 15 ม.ค.2567 เป็นเวลา 1 เดือน
โดยครั้งนี้ พิเศษอย่างยิ่ง เพราะนอกจากพี่น้องประชาชนจะได้เลือกซื้อสินค้า ของใช้อุปโภคบริโภคที่จำเป็น ซึ่งมาจากผู้ผลิตตั้งแต่รายใหญ่ถึงรายเล็กรวมกันมากกว่า 390 ราย สินค้ากว่า 40,000 รายการแล้ว ยังมีธุรกิจบริการมาร่วมจัดแสดงสูงสุดอีกกว่า 1,180 รายการ ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ แฟรนไชส์ บริการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่พัก ร้านอาหาร การเดินทาง อุปกรณ์ยานยนต์และซ่อมบำรุงรถยนต์ บัตรเครดิต อินเตอร์เน็ต อสังหาริมทรัพย์ และประกันภัย เป็นต้น
รวมทั้งยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับ E-commerce และ Food delivery ชั้นนำ เช่น Shopee , Lazada , Robinhood , Lineman , Foodpanda , Grab , AirasiaSuperapp , Kerry , Jatujak mall , Thailand postmart และลดราคาข้าวสารเพื่อประชาชนขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
นอกจากนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังแจกส่วนลดสินค้า เมื่อซื้อสินค้าผ่าน Platform Online ที่เป็นพันธมิตรของกรมฯ ระหว่างวันที่ 24-31 ธ.ค.2566 ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนตามนโยบายรัฐบาล พร้อมกับขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการชุมชนและธุรกิจที่อยู่ในการส่งเสริมของกรม ให้สามารถเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ได้ ประกอบไปด้วย 4 แพลตฟอร์ม ดังนี้ 1.Shopee (หัวข้อ สุขใจซื้อของไทย) มอบส่วนลด 15% เมื่อซื้อสินค้าชุมชน ขั้นต่ำ 100 บาท ส่วนลดไม่เกิน 50 บาท 2.Lazada มอบส่วนลดสินค้าผู้ประกอบการใน Landing Page ส่วนลดสูงสุด 30 บาท/คำสั่งซื้อ (ซื้อขั้นต่ำ 299 บาท) 3.SHIPPOP มอบส่วนลดค่าขนส่ง (สำหรับลูกค้าใหม่) 50 บาท (Code: SPDBDNEW) และ 4.Ninja Van มอบส่วนลด 10% เมื่อใช้บริการขนส่ง