'EGCO Group' ปิดดีล 'กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass' สหรัฐ รุกพลังงานสะอาด
"EGCO Group" ประสบความสำเร็จในการปิดดีลซื้อหุ้น 50% ใน “กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass” กำลังผลิตรวม 1,304 เมกะวัตต์ ในสหรัฐอเมริกา ความสำเร็จครั้งนี้ส่งผลให้ EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 652 เมกะวัตต์
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เปิดเผยว่า EGCO Compass II, LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมดและจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาได้เข้าลงทุนเสร็จสมบูรณ์ใน “กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass” เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ส่งผลให้ EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 652 เมกะวัตต์ และสามารถรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นทันที ภายหลังจากวันปิดดีล
สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่ง ได้แก่
- Marcus Hook Energy, L.P. (Marcus Hook) กำลังผลิต 912 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนีย
- Milford Power, LLC (Milford) กำลังผลิต 205 เมกะวัตต์ รัฐแมสซาชูเซตส์
- Dighton Power, LLC (Dighton) กำลังผลิต 187 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์
โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ใกล้กับศูนย์กลางของเมืองใหญ่ที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงมาก ได้แก่ ฟิลาเดลเฟีย บอสตัน และพรอวิเดนซ์ โดยพื้นที่เหล่านี้มีข้อจำกัดอย่างมากในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ และมีนโยบายมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจำเป็นต้องมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่เสริมความมั่นคงให้แก่ระบบ
ทั้งนี้ กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass ได้รับประโยชน์จากโรงไฟฟ้า Marcus Hook ซึ่งมีสัญญาระยะยาวในการขายกำลังผลิตส่วนใหญ่ให้แก่ The Long Island Power Authority (LIPA) และขายกำลังผลิตส่วนที่เหลือในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า PJM ใน
ขณะที่โรงไฟฟ้า Milford และโรงไฟฟ้า Dighton ขายกำลังผลิตให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้านิวอิงแลนด์ (ISO-NE) นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าในพื้นที่ที่แต่ละโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ด้วย
นายเทพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนใน กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการลงทุนและเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพสูง ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่ที่โรงไฟฟ้าเหล่านั้นตั้งอยู่
ในขณะเดียวกัน ความสำเร็จในการลงทุนครั้งนี้ช่วยสร้างฐานการเติบโตให้ EGCO Group ในตลาดพลังงานของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่มีเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และ EGCO Group มุ่งมั่นที่จะขยายการลงทุนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ เมื่อรวมกำลังผลิตจาก กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass แล้ว ทำให้ปัจจุบัน EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 7,084 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,435 เมกะวัตต์ (คิดเป็นสัดส่วน 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและในทะเล เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่
โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่าง ๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม “เอ็กโกระยอง” บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “เพียร์ พาวเวอร์” บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม “อินโนพาวเวอร์” EGCO Group ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 4 ปีต่อเนื่อง และตั้งเป้าหมายบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050