รมช.คลัง ชง ธอส.มอบของขวัญสงกรานต์ ลดดอกเบี้ย ผ่อนเกณฑ์กลุ่มเปราะบาง

รมช.คลัง ชง ธอส.มอบของขวัญสงกรานต์ ลดดอกเบี้ย ผ่อนเกณฑ์กลุ่มเปราะบาง

"กฤษฎา" สั่ง ธอส.มอบของขวัญสงกรานต์ ลดดอกเบี้ย ผ่อนเกณฑ์ช่วยกลุ่มเปราะบาง ปลื้มสินเชื่อ Happy Home มีผู้ลงทะเบียนแล้วเกือบ 4,000 ราย มูลค่า 10,000 ล้านบาท จ่อขยายวงเงินเพิ่มเติมอีก 10,000 ล้านบาท ธอส.รับลูกลดดอกเบี้ย MRR เหลือ 6.795%

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายการบริหารงานกับ ธอส. ว่า ได้มอบหมายให้ ธอส.พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อเป็นของขวัญช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง 

ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ ธอส. ร่วมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ตามที่มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2567 ผ่านโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อหรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เพียง 3.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 40 ปี 

 

ซึ่งหลัง ธอส. เปิดให้ลูกค้ารับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Mobile Application: GHB ALL GEN เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. พบว่ามีลูกค้ารับรหัสเข้าร่วมโครงการสูงถึง 3,729 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อกว่า 10,000 ล้านบาท

"มาตรการดังกล่าวได้รับผลตอบรับอย่างดีจากประชาชน จึงอาจมีการพิจารณาขยายกรอบวงเงินสินเชื่อเพิ่มอีกไม่เกิน 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้สั่งการ ให้ ธอส.ผ่อนปรนเงื่อนไข เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้"

ส่วนเรื่องเกณฑ์มาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าจะไม่ผ่อนคลายเกณฑ์ดังกล่าว เข้าว่า ธปท.มองในมุมของการกำกับดูแล ส่วนของแบงก์รัฐเองก็พยายามช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด 

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า แม้ ธปท.จะไม่มีการผ่อนเกณฑ์ LTV รวมถึงประกาศลดอัตราดอกเบี้ยตามที่คาด ก็ไม่มีผลต่อการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงในขณะนั้น โดยไม่ได้หวังพึ่งใคร ขณะเดียวกันสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและ ธอส.ก็มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลอด และคาดว่าจะตรึงต่อเนื่องในอนาคต

นายกมลภพ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธอส. มีมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางและประชาชนอย่างต่อเนื่อง วงเงินรวมกันกว่า 70,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ธอส.มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท คาดว่าเป็นไปตามเป้าหมายในปีนี้ และเมื่อมีโครงการสนับสนุนการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และโครงการอื่นๆ จากภาครัฐ ก็เชื่อว่าจะทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธอส. เติบโตขึ้นอีก 

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ายังมีลูกค้ากลุ่มที่อ่อนไหวต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจส่งผลต่อข้อจำกัดในการชำระหนี้ ธอส.มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.8% จากที่คาดการณ์ไว้ โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 3.8% 

"ทั้งนี้หนี้เสียที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนของ ธปท.ที่สิ้นสุดลงปลายปีที่แล้ว ดังนั้นเมื่อพิจารณาลูกหนี้ตามเกณฑ์ปกติลูกหนี้จึงยังไม่พ้นกลุ่ม NPL แต่เชื่อว่าหลังเดือนเม.ย.เป็นต้นไปจะมีสัดส่วนลดลง โดย ธอส.ตั้งเป้าว่าจะดูแลสถานการณ์ NPL ให้อยู่ในกรอบ 4.8-5% ในปีนี้"

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์