“นภินทร” ลุยด่านขนส่งผลไม้เวียดนาม เตรียมพร้อมขนส่งผลไม้ไทยไปจีน
“นภินทร” นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางการขนส่งผลไม้ที่ด่านสากลหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง จังหวัดลางเซิน กรุงฮานอย พร้อมหารือผู้บริหารด่าน ขออำนวยความสะดวกการขนส่งผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีนกว่า 4 แสนตัน
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน เดินทางไปสำรวจสถานการณ์การขนส่งผลไม้ เส้นทางการขนส่งผลไม้ ขั้นตอนการขนส่งผลไม้ผ่านด่าน จุดขนถ่ายสินค้า ที่ด่านสากลหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง จังหวัดลางเซิน กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งนางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ได้รายงานว่า สคต. กรุงฮานอย ลงพื้นที่ล่วงหน้า 2 ครั้งเพื่อเตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์ด่านรถไฟด่งดังและด่านสากลหูหงิ
โดยครั้งแรกพบว่า ด่านสากลหูหงิ มีรถบรรทุกรอดำเนินการติดสะสมจากด่านเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร และ การลงสำรวจติดตามครั้งที่สองพบว่าจังหวัดลางเซินมีการบริหารจัดการดีขึ้น ไม่มีรถบรรทุกติดสะสมหน้าด่าน โดยจังหวัดได้เตรียมจุดพักรถซึ่งห่างจากด่านหูหงิ 8 กิโลเมตร ซึ่ง สคต. ได้หารือ ผู้รับผิดชอบด่าน เตรียมความพร้อมรับตู้สินค้าผลไม้ไทย จะออกมาสู่ตลาดในช่วงต้นเดือน พ.ค.
ในส่วนของด่านรถไฟด่งดังมีการปรับพื้นที่และเพิ่มรางรถไฟจาก 3 ราง เป็น 6 ราง มีการเพิ่มจุดชาร์จไฟของตู้ refer เพื่อรองรับตู้ขนส่งสินค้า ช่วงฤดูที่ผลไม้ออกสู่ตลาด
นายนภินทร กล่าวว่า จากนั้นตนได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย เข้าพบนายโฮ่ เตี๊ยน เถียวะ ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดลางเซิน และผู้บริหารจังหวัดลางเซิน เพื่อหารือถึงปัญหาที่จะเกิดขี้นในช่วงฤดูผลไม้ของไทยที่กำลังจะถึง ที่อาจจะมีปัญหาการติดขัดบริเวณหน้าด่านในการตรวจปล่อยรถ รวมถึงการสุ่มตรวจสารปนเปื้อนบริเวณด่านของประเทศจีน ซึ่งหากล่าช้าจะทำให้เกิดความเสียหายกับผลไม้ไทยได้ ซึ่งปริมาณผลผลิตทุเรียนที่คาดการณ์จะออกในปี 2567
โดยเฉพาะภาคตะวันออก จำนวน 7.8 แสนตัน ซึ่งจะออกในช่วงเดือนพ.ค. จำนวน 4.1 แสนตัน โดยไทยใช้ด่านของเวียดนามที่อยู่ในจังหวัดลางเซิน 2 ด่านคือ ด่านทางบกหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง ซึ่งเป็นด่านหลักในการขนส่งผลไม้ไทยไปประเทศจีน โดยทางประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดลางเซิน ยินดีให้ความร่วมมือ และจะดูแลการตรวจปล่อยรถบรรทุกของไทยจากด่านที่ตนรับผิดชอบให้เร็วที่สุด
“ ได้ตั้งเป้าในการขนส่งผลไม้จากไทยไปจีน ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง"นายนภินทร กล่าว
ทั้งนี้ได้กำชับให้ทูตพาณิชย์ของไทย ที่ประจำอยู่ที่กรุงฮานอย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ประสานหน่วยงานของเวียดนามอำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทยเวลาผ่านด่านชายแดนเวียดนามไปยังจีน และให้ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน รวมถึงการปิด-เปิดด่านอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนผู้ประกอบการถึงสถานการณ์หน้าด่านให้ประสานงานกับด่านศุลกากรเวียดนาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไทย หากมีปัญหาก็ให้รีบหารือกับผู้บริหารด่านของเวียดนาม เพื่อแก้ไขในทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทย
สำหรับด่านหูหงิ เป็นด่านสำคัญที่รถขนส่งผลไม้จากไทยจะมาใช้บริการก่อนที่จะเข้าสู่ด่านโหย่วอี้กว่าน ของจีน โดยมีการติดตามสถานการณ์การขนส่งว่ามีปัญหาติดขัดที่หน้าด่านหรือไม่ เพราะใกล้จะเป็นช่วงฤดูผลไม้ของไทย และต้องใช้เส้นทางนี้ในการขนส่งสินค้าส่งออกผ่านไปจีน
ด่านรถไฟด่งดัง เป็นด่านที่เชื่อมต่อไปยังด่านรถไฟผิงเสียงของจีน ห่างจากฮานอยประมาณ 171 กิโลเมตร และห่างจากด่านสากลหูหงิ ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งไทยจะใช้ด่านนี้เป็นด่านสำหรับส่งออกผลไม้ของไทยเข้าสู่ตลาดจีน ส่วนใหญ่เป็นทุเรียนโดยในแต่ละวันจะมีรถไฟ 5 ขบวนที่ส่งออกไปจีน และมี 5 ขบวนที่เข้ามาจากจีน และในช่วงฤดูผลไม้ไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีสินค้าทุเรียนไทยผ่านด่านรถไฟด่งดังไปจีน ประมาณ 10-20 ตู้ต่อวัน