รถไฟสายใต้ 'นครปฐม - ชุมพร' กุญแจสำคัญ หนุนภาคท่องเที่ยว

รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ถือเป็นอีกหนึ่งโครงข่ายทางรางที่สำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของการขนส่งระบบรางในประเทศ เพราะมีแนวเส้นทางส่งเสริมการเดินทางและการขนส่งสินค้าจากศูนย์กลางระบบรางในกรุงเทพฯ เข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจภาคใต้ (SEZ) และประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย รวมทั้งยังผ่านหัวเมืองท่องเที่ยวหลายแห่ง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อาทิ

สถานีนครปฐม

มีจุดที่ตั้งอยู่ในตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม  โดยตัวสถานีตั้งอยู่ใกล้กับวัดปฐมเจดีย์ แลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดนครปฐม

สถานีหัวหิน

มีจุดที่ตั้งอยู่บนถนนสถานีรถไฟ ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งผู้โดยสารจะสามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอย่างชายหาดหัวหิน

สถานีชุมพร

มีจุดที่ตั้งอยู่ในตำบล ท่าตะเภา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟที่อยู่ใจกลางเมืองจังหวัดชุมพร นอกจากผู้โดยสารจะสามารถเดินทางต่อเพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลแล้ว ยังห้ามพลาดแลนด์มาร์คในเมืองอย่างศาลหลักเมืองจังหวัดชุมพร และพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดชุมพร

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม –ชุมพร ซึ่งนับเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงการเจริญเติบโตสู่ภูมิภาค ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย และเป็นการพลิกโฉมการคมนาคมขนส่งระบบราง ผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมของภูมิภาคตามเป้าหมายในอนาคตอันใกล้นี้

โดยเมื่อเปิดให้บริการแล้ว จะช่วยลดระยะเวลาเดินทางของประชาชนลงได้ 25-30% เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน จากเดิมใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง จะเหลือระยะเวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง อีกทั้งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เลือกใช้ระบบรางในการเดินทางที่สามารถกำหนดเวลาเดินทางได้อย่างแม่นยำ และหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด

อย่างไรก็ดี ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2567 ในวันที่ 14 พ.ค.2567 ตนเตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ สถานีรถไฟจังหวัดเพชรบุรี ในวันที่ 13 พ.ค.นี้ โดยจะติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร และผลการดำเนินการเปิดให้บริการเดินรถในระหว่างเส้นทางดังกล่าว ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ทยอยเปิดให้บริการไปแล้ว อีกทั้งจะติดตามความพร้อมของสถานีรถไฟเพชรบุรี เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน